ความคิดเห็นทั้งหมด : 8

ที่สุดของบุคคลแห่งปี49 ยกย่อง "สนธิ" ผิดหวัง "ทักษิณ"


   ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2549 ในสายตาคนกรุงเทพฯ” ซึ่งเก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 16-22 ธันวาคม จากประชาชนในกรุงเทพฯ 1,208 คน ด้วยคำถามปลายเปิด คือให้ผู้ตอบแบบสอบถามระบุคำตอบเองโดยไม่มีคำตอบให้เลือก ผลสำรวจพบว่า

ข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่สร้างความปีติยินดีมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ พิธีเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี คือร้อยละ 77.8 รองมาเป็นการยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลทักษิณ โดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ ร้อยละ 9.9 พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ร้อยละ 1.9 และการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ร้อยละ 1.6

ส่วนข่าวหรือเหตุการณ์ที่คนกรุงเทพฯ เศร้าสะเทือนใจมากที่สุดในปี 2549 ได้แก่ เหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และการทำร้ายครูจูหลิง ที่มีผู้ตอบมากถึงร้อยละ 49.9 รองมาเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศ ร้อยละ 18.7 การขายหุ้นในเครือชินคอร์ปให้กองทุน เทมาเซค ของสิงคโปร์ร้อยละ 12.6 การยึดอำนาจการปกครอง เมื่อวันที่ 19 กันยายน ร้อยละ 7.6

ในส่วนของ "บุคคล" ที่คนกรุงเทพฯ เห็นว่ามีพฤติกรรมน่าชื่นชมยกย่องมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ที่กล้าตัดสินใจยึดอำนาจและตัดสินใจรวดเร็วทันเหตุการณ์ คือร้อยละ 16.5 รองมาเป็น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ถือเป็นผู้มีคุณธรรม อ่อนน้อม พูดตรงไปตรงมา และเสียสละรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 15.7 อันดับต่อมาคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ก่อนพ้นตำแหน่ง คนกรุงเทพฯ เห็นว่าเป็นผู้นำความเจริญมาสู่ประเทศ มีผลงานช่วยเหลือคนจนและปลดหนี้ ร้อยละ 13.9 ตามด้วย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ร้อยละ 11.7 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ร้อยละ 7.2 และเจ้าหน้าที่และครูที่ปฏิบัติงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติ ร้อยละ 6.1

แต่เมื่อให้ระบุถึงบุคคลที่จะยึดเป็น "แบบอย่าง" ในการดำรงชีวิตปี 2550 ปรากฏว่า คนกรุงเทพฯ กว่าครึ่ง คือร้อยละ 64.7 จะยึดถือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เป็นแบบอย่างจากพระราชกรณียกิจในเรื่องการใช้ชีวิตแบบประหยัดพอเพียง มีพระเมตตาช่วยเหลือผู้อื่น ทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน ตามด้วย พ่อ/แม่ของผู้ตอบแบบสอบถาม ร้อยละ 8.3 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่มีความซื่อสัตย์เสมอต้นเสมอปลาย ร้อยละ 5.3 และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผู้ใช้ชีวิตสมถะเรียบง่าย ไม่หลงอำนาจ ร้อยละ 4.2

ขณะที่บุคคลในสังคมไทยที่มีพฤติกรรมน่าผิดหวังมากที่สุดในรอบปี ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะคำตอบมากที่สุดถึง ร้อยละ 63.0 ตอบว่า คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีพฤติกรรมทุจริตคอรัปชั่น ขายหุ้นให้ต่างชาติ หลีกเลี่ยงภาษีและทำให้คนไทยฟุ้งเฟ้อหลงวัตถุนิยม รองมาคือ ผู้ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 8.1 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ร้อยละ 4.4 และในหัวข้อนี้ มีอดีตนางเอกสาว "แหม่ม" คัทลียา แมคอินทอช ที่มีผู้ตอบว่า "ผิดหวัง" ร้อยละ 3.4

ในส่วนของ "องค์กร" ในปี 2549 นั้น หน่วยงานหรือองค์กรที่คนกรุงเทพฯ ชื่นชมมากที่สุด คือ คณะปฏิรูปการปกครองฯ หรือ (คปค.) ที่ชื่นชมสูง ร้อยละ 24.8 รองมาเป็นสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ร้อยละ 8.2 ศาลปกครองที่มีผลงานตัดสินคดีไอทีวี คดีแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ร้อยละ 7.9

ส่วนหน่วยงานหรือองค์กรที่ "ผิดหวัง" มากที่สุด คือ รัฐบาลทักษิณ ที่มีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตคอรัปชั่น พยายามแปรรูป กฟผ. แก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้ ร้อยละ 15.4 รองมาเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้อยละ 12.5 กรมสรรพากร ร้อยละ 10.4 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร้อยละ 8.3 พรรคไทยรักไทย ร้อยละ 5.6 และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ถูกมองว่าขึ้นราคาค่าโดยสารแต่บริการไม่ดี ร้อยละ 4.9

สิ่งที่คนกรุงเทพฯ อยากได้เป็น "ของขวัญ" จากรัฐบาลในปี 2550 นั้น ของขวัญชิ้นแรกคือ สามารถยุติปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 18.6 บริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริตร้อยละ 12.6 แก้ปัญหาเศรษฐกิจ/ค่าเงินบาท/หุ้น/และราคาสินค้า ร้อยละ 12.1 คืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนโดยเร็ว ร้อยละ 11.4 ดำเนินการยึดทรัพย์/เอาผิดกับนักการเมืองที่ทุจริตคอรัปชั่น ร้อยละ 9.7



Posted by : Yorestinowa , Date : 2006-12-27 , Time : 16:51:42 , From IP : 210-86-142-200.stati

ความคิดเห็นที่ : 1


   ผู้จัดการ" ...จากสื่อกลายพันธุ์ ไปเป็น "สังคมแห่งความเกลียดชัง" ที่รุนแรง

*** ผมนำกระทู้นี้มาจาก pantip ห้องราชดำเนินครับ ***
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4986825/P4986825.html

วันนี้จะขอระบายความในใจ และ เขียนในสิ่งที่สังเกตได้เกี่ยวกับ สื่อที่เรียกตัวเองว่า "ผู้จัดการ"

เมื่อก่อนตอนที่ นาย สนธิ ลิ้มทองกุล ยังมีเยื่อใยอันดีกับทักษิณ ชินวัตรอยู่นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างดูจะราบรื่นไปซะหมด

สโลแกน "ผู้จัดการเปลี่ยนไป" ที่โฆษณาทางทีวีนั้นติดปากคนไทย และ กระตุ้นยอดขายให้กับ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้ครั้งใหญ่

เว็บไซ้ด์ผู้จัดการเป็นเว็บไซ้ด์ที่มีคนเข้าชมสูงเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ (UIP วันละเป็น แสนๆ)

โดยมีจุดเด่นคือการนำเสนอข่าวที่รวดเร็วมากๆ
ขนาดเว็บข่าวฟุตบอลยัง update ข่าวฟุตบอลได้เร็วสู้เว็บผู้จัดการไม่ได้เลย

จนมาวันนึง เมื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล เปิดสงครามขั้นแตกหักกับ ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อดีตคนเคยเป็นเพื่อน

ผู้จัดการก็เลยเปลี่ยนไปจริงๆ

สื่อเครือผู้จัดการแสวงหาผลประโยชน์จากการเปิดสงครามกับนายกรัฐมนตรีคราวนี้ โดยมีกลยุทธ์ที่ "ชั่วร้าย" ที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมาในประวัติศาสตร์สื่อไทย

ชั่วร้ายถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีคนบนโลกนี้กล้าทำแบบนี้หรือไม่

1. เว็บผู้จัดการใช้ประโยชน์จากการที่มีคนเข้าเยอะ
"ปั่น" กระแสความเกลียดชังผ่านเว็บไซ้ด์ manager.co.th ...โดย เขียนข่าวในทางลบทุกครั้งเกี่ยวกับรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โดยไม่สนใจ ว่าข่าวที่เขียนนั้น จริงหรือเท็จ

ความเห็นที่แสดงใน เว็บไซ้ด์ที่เหมือนเป็นฝ่ายตรงข้ามกับผู้จัดการจะถูกลบทิ้งหมด ความเห็นของผู้ชมที่แสดงเข้ามาในเว็บจะมีแต่ความเห็นที่ "เห็นด้วย" กับผู้จัดการเท่านั้น

วิธีการแบบนี้ ผมเชื่อว่า ไม่มีเว็บไซ้ด์สื่อชนิดไหนบนโลก
เค้าทำกัน
หรือ แม้กระทั่งเว็บไซ้ด์ธรรมดาเค้าก็ยังไม่ทำเลย!

วิธีการแบบนี้เป็นการสร้างวัฒนธรรมแห่งการเกลียดชังขึ้นอย่างแนบเนียน

2. ผู้จัดการเปลี่ยนจรรยาบรรณสื่อของโลกใหม่ (นั่นคือต้องเป็นกลาง)

โดยใส่สโกแกนสวยหรูเข้าไปใหม่ว่า

"เราเป็นกลางกับคนชั่วไม่ได้"

แต่เท่าที่ผมเคยลืมตามองโลกนี้มา
ผมไม่เคยเห็นสื่อไหนบนโลกไปตัดสินว่าใครเป็นคนชั่วเลยนะครับ

นอกจากผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมหรือข่มขืน

แต่สื่อเครือผู้จัดการทำได้
ผู้จัดการสามารถเขียนข่าว "ด่า" , "ใส่ร้าย" , "หยาบคาย" แค่ไหนก็ได้ เกี่ยกวับรัฐบาลได้โดยอ้างถึงสโลแกนสวยหรูของเขาว่า คนที่ผู้จัดการคิดว่าเลว...ผู้จัดการจะไม่เขียนข่าวที่เป็นกลางเกี่ยวกับคนนั้นเด็ดขาด..

อย่าว่าแต่ข่าวที่ไม่เป็นกลางเลย
ข่าวที่ไม่เป็นความจริงเลย หรือข่าวที่ ไม่มีมูลเลยก็ยังเอามาเขียนได้

ไม่ว่าจะกรณีวัดพระแก้ว
กรณี ทักษิณ สั่งคนไปทุบพระพรหมณ์

โดยอาศัยหลักกลยุทธ์ "ลบความเห็น" ที่เขียนไว้ในข้อหนึ่ง
สร้างกระแสนี้ขึ้นมา จนทำให้ดูเหมือน "คนส่วนใหญ่" ก็คิดเหมือนผู้จัดการ

ความเห็นที่ปรากฎอยู่ในผู้จัดการนั้น
เรียกได้ว่าเป็นความเห็นที่ "ป่าเถื่อน" และ "หยาบคายที่สุด" แต่ก็ยังสามารถโชว์อยู่ในเว็บสื่ออันดับ1ของเมืองไทยได้

การสร้างกระแสแบบนี้ทำให้ไม่ว่าผู้จัดการจะทำอะไร มันก็ถูกไปหมด..เพราะไม่มีคนไม่เห็นด้วยกับผู้จัดการ

จรรยาบรรณสื่อเรื่องความเป็นกลางนั้นจึงมลายหายไปสิ้น
ผู้จัดการจึงกลายเป็น "สื่อเผด็จการ 100% " ที่แรกของไทย

3. คนทุกคนที่เป็นคนรอบข้างทักษิณถือเป็น "คนเลว" , "ชาติชั่ว" , "ตุ้ด " , "คนผิดปกติ" , "คนโกง"
คนที่อยู่ตรงข้ามกับทักษิณ เป็น "วีรสตรี" และ "วีรบุรุษ" ทุกคน!

สืบเนื่องจากกลยุทธ์สุดชั่วในข้อหนึ่งและสอง
ผู้จัดการก็สร้างวัฒนธรรม และ สังคมชั่วๆขึ้นในเว็บตัวเองสำเร็จจนได้

ตอนนี้ในผู้จัดการ ถ้าไม่ใช่หัวข้อที่เกี่ยวกับ เกมส์ หรือ เทคโนโลยีแล้วละก็

ทุกหัวข้อผู้จัดการจะสามารถนำบุคคลทุกประเภทมาเชื่อมโยงกับนายกทักษิณได้หมด

ไม่ว่าคนๆนั้นจะเก่งแค่ไหน
มีความสามารถเพียงไร
ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติมากแค่ไหน
ถ้าเค้าคนนั้น เคยเป็นเพื่อนกับทักษิณ หรือ เคยรู้จักกับทักษิณ

คนๆนั้นก็จะกลายเป็นคนคนเลว" , "ชาติชั่ว" , "ตุ้ด " , "คนผิดปกติ" , "คนโกง"
ไปในทันที แล้วตั้งชื่อคนพวกนั้นว่าเป็น "คนระบอบทักษิณ" จนหมด

ตัวอย่างที่มีให้เห็นอยู่เป็นประจำคือบทความของนาย "ต่อพงษ์" ที่เขียนถึง เบิร์ด ธงไชย แม้คอินไตย
หรือที่เขียนถึง "แกรมมี่" ซึ่งมีผู้บริหารค่ายเป็นเพื่อนกับทักษิณ

นายต่อพงษ์จะกล่าวร้าย เสียดสี ดูถูก เหยียดหยามทุกๆคนที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลทักษิณ

แม้กระทั่งซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของไทย
และค่ายเพลง อันดับ 1ในสามของไทย
เขาก็ด่าได้!...และจะด่าต่อไป เพราะมันเป็นเพื่อนกับทักษิณชินวัตร

แม้กระทั่งตอนที่ เพชร AF 3 โดนvoteออกจากบ้าน
ผู้จัดการก็ลงข่าวว่า "เพชร AF3 โดนไล่ออกเพราะไม่ชอบทักษิณ"

เพราะผู้บริหาร UBC ก็เป็นเพื่อนกับทักษิณ เพชรก็เลยโดน vote ออก

ว่าเข้าไปนั่น..
แต่คนที่มาแสดงควาเห็นใน manager ก็เชื่อเป็นตุเป็นตะอีกแหนะ! ..(จริงๆอาจจะมีคนไม่เชื่อ แต่โดนลบความเห็นไปหมดแล้ว)

4. "ตอนนี้ใครๆก็เห็นด้วยกับผู้จัดการทุกเรื่อง"

จากกลยุทธ์ข้อหนึ่งและสอง
เราจะเห็นว่าไม่ว่าผู้จัดการจะเขียนข่าวเอียงไปทางไหน
คนในเว็บผู้จัดการก็จะเอียงไปทางนั้นหมด

ไม่มีคำว่าไม่เห็นด้วย
จะมีแต่ เห็นด้วย เห็นด้วย เห็นด้วย

ผู้จัดการเกลียดใคร
ฉันก็เกลียดด้วย

ผู้จัดการว่าใคร
คนนั้คือคนเลว ชาติชั่ว

ผู้จัดการชมใคร
คนนั้นเป็นคนดีเลิศ ประเสริฐศรี

และสนธิลิ้มทองกลุ ก็คือ ยอดวีรบุรุษกู้ชาติแห่งประเทศไทย

ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็น ผลสำเร็จจากการสร้างสังคมแห่งความเกลียดชังหรือไม่
หรีอจริงๆมันอาจจะแค่เป็นเพราะว่าคนไม่เห็นด้วยกับผู้จัดการ โดนลบความเห็นไปหมดเฉยๆก็ได้

แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบใด มันก็แสดงให้เห็นว่าเราคงเรียกผู้จัดการว่า "สื่อ" ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

เพราะตอนนี้เว็บผู้จัดการกลายเป็น "Communityสุดเผด็จการของคนเกลียดทักษิณ" ไปแล้วเรียบร้อย

ส่วนข่าวอื่นๆมาลงไว้เพื่อให้ดูเหมือนเป็นสื่อเฉยๆ

สุดท้ายอยากจะขอกล่าวขอบคุณเว็บไซ้ด์ผู้จัดการไว้หน่อย

เพราะ
1.เว็บนี้ทำให้ผมรู้ว่า จริงๆแล้ว คนไทยชอบข่าวลือ
2.เว็บนี้ทำให้ผมรู้ว่า สังคมไทยเป็นสังคมอารมณ์อย่างแท้จริง
3.เว็บนี้ทำให้ผมรู้ว่า คน 14 ตุลา ไม่ใช่คนประชาธิปไตยเสมอไป
4.เว็บนี้ทำให้ผมรู้ว่า สื่อที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นกลางก็ได้
....ต้องสุดขั้วเท่านั้นถึงจะขายดี
5.เว็บนี้ทำให้ผมรู้ว่า ใครมั่งที่เป็นเพื่อนทักษิณ
เพราะคนที่เป็นคนเลวในเว็บนี้เป็นเพื่อนทักษิณหมด
6.เว็บนี้ทำให้ผมรู้ว่า ประเทศไทย ยังมีคนป่าเถื่อนไร้เหตุผลอยู่อีกเยอะแยะมากมายจนทราบแล้วว่าทำไมประเทศไทยเจริญทัดเทียมนานาชาติไม่ได้

สุดท้ายผมขอทิ้งท้ายโดยการยกพาดหัวข่าวสุดฮา จากคุณ MOSK ที่ตอบไว้ในกระทู้ไหนไม่รู้มาให้อ่าน
คาดว่าพาดหัวข่าวเหล่านี้อาจจะมีโอกาสได้ลงในผู้จัดการซักวันหนึ่ง .. :D

"แม้ว ยัดเงิน Toshiba สร้างพัดลมขนาดยักษ์พัดถล่มแหลม ตะลุมพุก"

"คมช. เผยแล้วพบท่อใต้ดิน หลังสงสัย แม้ว ส่งท่อน้ำเลี้ยง ทรท."

"ไฟไหม้หนักไผ่สิงโต พบหลักฐานในที่เกิดเหตุ เป็น sim card AIS คาดแม้ว อยู่เบื้องหลัง"

"อุ๋ยเผย หุ้นตก แท้จริง แม้วทุบ!!"

"อากาศหนาววิปริต คมช. คาดแม้ว จับมือ มิตซูบิชิ ผนึกกำลังสร้าง Super Air ถล่มทั่วไทย"

"เชียงใหม่ ระส่ำแผ่นดินทรุด!! เหตุแม้ว ล็อบบี้ จีน ยิงนุคใต้ดิน ทำแผ่นดินไหว"

"ยาบ้าระบาดหนัก คมช. คาดแม้ว ส่งซิกว้าแดง หวังดิสเครดิต รัฐบาล"

"รมต. ต่างประเทศ ออกแถลงการเสียใจ ต่อมาเลย์ หลังแม้ว ส่งคลื่นใต้น้ำ ท่วมรับปีใหม่"

"เติ้งย้ำ ปลาฉลาม ใกล้สูญพันธ์ เพราะแม้ว ชอบกินหูฉลาม วอน NGO สอบ"

"DSI ฉุน เสี่ยปิคนิค พ้นคุก แฉแหลก แม้วบีบศาล"

"กระทรวงสาธารณสุธ เผย คนไทย ดื่มเหล้า ติดอันดับ5โลก เจ้ากระทรวงแย้ม คนหันมาดื่มกันมากเพราะเครียดเรื่องแม้ว"

"บิ๊กหอย เครียด บอลไทยไม่เข้าเป้า เหตุแม้ว ไม่ซื้อลิเวอร์พูล"

"มาร์ค มึน มีคนจ้องเลื่อยขาเก้าอี้ คาด คนในจับมือแม้ว"

"เหนาะ ว๊าก รู้ทันแม้ว หากกลับไทย มีนองเลือด"

"ใต้ยังเดือด คาดแม้ว ส่งคนป่วน"


Posted by : ..... , Date : 2006-12-27 , Time : 19:42:15 , From IP : 172.29.3.39

ความคิดเห็นที่ : 2


   นี่ก้ออีกอัน อยากให้อ่านค่ะ
ยาวไปแหละ ขอโทษนะครับ ทนอ่านกันหน่อยนะครับ แล้วอย่าลบทิ้งซ่ะก่อนหละ

"เราน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า รัฐบาลมักจะเป็นศัตรูกับสื่ออยู่ตลอด โดยเฉพาะรัฐบาลทักษิณ"

รัฐบาลทักษิณ ไม่เคยก้มหัวให้สื่อเลยแม้กระทั่งสักครั้งเดียว เหมือนที่คณะปฏิวัติกำลังตรวจสอบอยู่ในขณะนี้

ผมจะพูดถึงเรื่องราววุ่นวายต่างๆ ในบ้านเมือง

มันก็เกิดขึ้น จากจุดนี้

เมื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล นักพูดชื่อดัง และเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ
ประกาศสงครามกับรัฐบาลทักษิณอย่างเป็นทางการและออกหน้าออกตาสุดๆ

ส่งผลให้ เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลไปทั่วทุกแห่งหน อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นี่คือความจริงที่เราไม่สามารถปฎิเสธได้

ไม่ว่าคุณจะบอกว่า

"ผมไม่ได้ชอบสนธิ..แต่สนธิเอาความจริง รัฐบาลมาแฉ ผมเชื่อเขา"

"สนธิเป็นแค่คนๆหนึ่ง เขาจะเ ล วยังไงผมไม่รู้แต่เขาออกมาแฉความจริงของบ้านเมือง ผมเชื่อเขา"

สุดท้าย ไม่ว่าใครจะพูดยังไงทุกคนต้องลงท้ายด้วยคำว่า"ผมเชื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล"
คุณเคยลองย้อนกลับไปคิดหรือไม่ว่า

สนธิ ลิ้มทองกุลเป็นใคร? ทำไมคุณจึงเชื่อเขา

"ถ้ามีคนออกมาพูดเรื่องเดียวกัน ด้วยวาจาที่น่าเบื่อ ไม่น่าฟัง คุณจะเชื่อเขาไหม?"
ลองดูรายการช่อง 5 ช่วงเช้า เป็นรายการนึง ขอไม่เอ่ยชื่อรายการนะครับ

แน่นอน ใครจะไปเชื่อ
ถ้ามีคนออกมาพูดติดๆ ขัดๆ เลิกๆ ลักๆ แต่ใช้คำพูดคำเดียวกันกับสนธิลิ้มทองกุล
แน่นอน ว่าไม่มีใครเชื่อ คุณว่าใช่ไหม

แต่ทุกคนเชื่อ เพราะ สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นนักพูดตัวฉกาจ ที่สามารถโน้มน้าวใจคนได้ทุกแห่งหน

ทำไมเมื่อต้องเชื่อ รองถามตัวเองดูนะครับ ว่าจริงไหม??

เมื่อเขาพูดชมรัฐบาลสุรยุทธ์ คุณเชื่อ!
เมื่อเขาด่ารัฐบาลทักษิณ คุณเชื่อ!..

เขาออกมาบอกว่า ผมกลับใจได้เมื่อก่อนผมเลวแต่ตอนนี้กลับใจแล้ว คุณก็เชื่อ!

ผมเชื่อว่าถ้า สนธิ กลับมาพูดชมนายกแล้วบอกว่า"ที่ผ่านมาผมเข้าใจผิดไป"พร้อมกับพูดจาโน้มน้าวตามประสานักพูด
พวกคุณก็จะเชื่อ และ ม้อบก็จะสลายตัวหายไปกว่า เกือบครึ่ง

คำถามของผมคือพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย จะเกิดกระแสรุนแรงขนาดนี้หรือไม่ ถ้าไม่มีสนธิ ลิ้มทองกุล?

สื่อของสนธิ ลิ้มทองกุล ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ เว็บไซ้ด์ หรือตัวเขาเอง
ต่างเขียนข่าวโจมตีรัฐบาลทักษิณอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอ่ะไร ก็ตาม

สนธิ ลิ้มทองกุลรู้ดีว่า คนไทยอ่อนไหว กับสีของธงชาติ

" ช า ติ ศ า ส น า พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ย์"

หากคุณสังเกตคุณจะพบว่า เรื่องที่สนธิโจมตีรัฐบาลในช่วงต้น ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ช า ติ ศ า ส น า พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ยั ทั้ ง ห ม ด

โดยเฉพาะ สถาบัน พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ย์ อันเป็นที่เคารพยิ่งของคนไทย

สนธิ รู้จุดนี้ดี

จึงออกมาใช้สโลแกนว่า

"เราจะสู้เพื่อ ใน หลวง!"

"เราจะ!!! กู้ชาติ"

"ทำไมต้องมี พระ.สังฆ.ราช 2 .อ.ง.ค์"

"นายก จาบจ้วงเบื้องสูง"

คุณไม่สังเกตหรือว่า ข่าวที่สนธิ นำมาประโคมให้ดัง นำมาจุดให้ไฟติด ทำให้เกิดรัฐประหาร ล้วนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ทั้งสิ้น

นอกจากนั้น สนธิยังพยายาม จุดกระแสแห่ง "คนหมู่มาก"ให้เกิดขึ้น

เพราะสนธิรู้นิสัยคนไทยดี ที่ชอบทำอ่ะไร "ที่ใครๆเขาก็ทำกัน "

สนธิพยายาม ปั่นกระแสตัวเลขที่เยอะแยะมากมาย เข้ามาในสื่ออาทิเช่น

"ม้อบวันนี้ มีคนมากว่า ครึ่งล้านแล้ว!!!"

"นักวิชาการนักพูด นักธุรกิจมากมาย ร่วมกันขับไล่นายก"

"นักวิชาการ ผู้มีชื่อเสียงหลายท่านออกมาขับไล่นายก"

"ตอนนี้ คนไทยทั้งประเทศ เค้าไม่ต้องการนายกทักษิณแล้ววววว!!"

สนธิใช้วาจา ที่แสนจะปลุกใจ พูดให้คนไทยคิดว่า คนส่วนใหญ่คิดแบบเขาแน่นอน!!!

และนั่นก็ได้ผลในระดับที่ดีเกินคาด กลายเป็น วงจร อุบาทว์ ที่กำลังกลืนกินความจริง

เมื่อคนๆหนึ่งเชื่อว่ามีคนทั้งประเทศที่ไม่ได้คิดเหมือนเขานะ
จิตใจเขาก็จะเริ่มสับสนและเอนเอียงไปอย่างไม่รู้ตัวว่า "เฮ่ย นี่!!!กำลังคิดอ่ะไรผิดรึเปล่าวะ?"

คนฉลาด คนโง่ คนเก่ง คนห่วย
ทุกๆคน หาก "ขาดสติ ที่มั่นคง" เมื่อฟังวาจา ของสนธิ ลิ้มทองกุลย่อมต้องคล้อยตาม

และการครอบงำทางความคิดก็ยิ่งมากขึ้น

"วงจร ของ สนธิ ลิ้มทองกุลจึงเกิดขึ้น"

เมื่อ "คนฉลาด แต่ขาดสติ โดนสนธิ ปั่นหัวจนติด"

เมื่อคนฉลาด ที่เต็มไปด้วยความรู้เหล่านั้น ออกมาโจมตีรัฐบาล ด้วยความคิดที่ถูกปลูกฝังจาก วงจร สนธิ
คน ปกติ ก็จะเริ่มเชื่อ และเอนเอียงขึ้นเรือยๆ เพราะพวกเขาเชื่อ คนฉลาดเหล่านั้น

คนฉลาด เมื่อขาดสติ เมื่อโดนสื่อครอบงำ ก็ไม่ต่างอ่ะไรกับ นักรบที่เต็มไปด้วยอาวุธ แต่กำลังเมาเหล้า สามารถฆ่าผู้บริสุทธิ์ได้โดยไม่รู้ตัว
และทั้งหมดนี้ก็คือที่มาของกระแสต่อต้านนายกในทุกวันนี้

Website manager กลายเป็น Website ติดอันดับ 1 ใน 2 ที่มีคนเข้าชมมากที่สุด ของปี
แต่Website นี้กลับลบความคิดเห็น ที่ไม่ตรงกับตนทั้งหมดทิ้ง (เรื่องนี้ ไม่มีหลักฐาน แต่คุณสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง เลยครับ)
ทำให้ผู้คนที่เกลียดชังนายกอยู่แล้ว ยิ่งปักใจเชื่อเข้าไปอีกว่า คนส่วนใหญ่ ไม่มีใครชอบนายกทักษิณอีกต่อไปแล้ว เพราะมีแต่ความคิดเห็นที่เกลียดชังนายก อยู่เต็ม ไปหมด
ก่อให้เกิดกระแสแห่งความเกลียดชังที่ หลงงมงาย คิดว่าตัวเองเป็นคนที่ถูกต้องเพราะเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม

ถามตัวเองดูคุณเป็น เหยื่อ ของนายสนธิ หรือเปล่า???????
คุณกำลังเชื่อ สิ่งที่คุณเห็นจริง
หรือคุณกำลังเชื่อกระแส แห่ง สื่อ กระแสแห่งนักวิาการผู้น่าเชื่อถือ ที่มันกำลังพาคุณไป

คุณอาจจะบอกว่า "เพราะตัวผมเองนี่แหละ ผมเห็นแล้วว่าทักษิณ มันเลว มันโกงชาติ มัน..."

ผมอยากให้คุณลองหลับตา คิดตาม
แล้วนึกภาพดูว่า

ถ้าไม่มีหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ในเครือผู้จัดการ
ถ้าไม่มี นักวิชาการ นักพูด(ที่ก็ บริโภคแต่ตำรา +หนังสือพิมพ์)
ถ้าไม่มี สนธิ ลิ้มทองกุล

พวกคุณ จะเกลียดนายกทักษิณหรือไม่?????????

หากคำตอบในใจของคุณคือ "ผมเกลียดนายก ทักษิณ ครับ ผมเห็นว่านายกทักษิณไม่ดีจริง ผมไม่ชอบนโยบายของเขา..."

ผมขอแสดงความยินดี คุณคือผู้มีความคิดเป็นของตัวเอง

แต่หากคำตอบคือ "..ผมไม่แน่ใจ...แต่ผมก็อ่านข่าว ผมก็ฟังนักวิชาการ..ผมเห็นคนส่วนใหญ่ ก็ออกมาด่านายกทั้งนั้นนี่..มันจะไม่จริงได้ไงละ"

คุณกำลังตกเป็นเครื่องมือของเขาไปแล้วเรียบร้อย

ผมไม่ได้บอกว่า สิ่งที่สนธิ พูดหาความจริงไม่ได้
แต่ผมเชื่อว่า เรื่องกว่าครึ่ง จากสื่อของสนธิลิ้มทองกุล เกิดจากการ ปั่นกระแสแห่งความเกลียดชังด้วยวาจาที่เฉียบคบมาแล้วทั้งนั้น
เรื่องเดียวกัน หากใช้คำพูดที่ต่างกัน อาจกลับจากถูกเป็นผิด และ ผิดเป็นถูกได้ทันที

ลองดูการพาดหัวข่าวว่าของไทยรัฐกับผู้จัดการนะครับ

"สยาม พารากอน ปิด ห้างหนีม้อบ เป็นเวลาเกือบ 2 วัน "
แน่นอน จะมีกระแสที่บอกว่า "เห็นไหม ห้างเขายังปิดหนีม้อบเลย"

แต่ สื่อผู้จัดการกลับเลือกที่จะลงข่าวว่า

"สยามพารากอน เปิดทาง พันธมิตร ปิดห้าง 2 วัน"
กระแสก็จะกลายเป็น "เห็นมั้ย เค้าปิดห้างเพื่อม้อบเลย"

ผมแค่อยากจะมาบอกทุกๆคนว่า

การเล่นสงครามสื่อโดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ
เป็นเรื่องที่ เ.ล.ว.ท.ร.า.ม ต่ำช้าที่สุด ของมนุษยชาติ
ยิ่งกว่าระบอบเผด็จการ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมากมายนัก
การทำให้ คนๆหนึ่งถูกเกลียดชัง
โดน วาจา ที่โน้มน้าว ปลุกระดมคนหมู่มาก เพื่อเข้าร่วมอุดมการณ์ ของตน โดยไม่สนว่า สิ่งที่ตนพูดจะเป็นเรื่องโกหก
ทำไมชาวบ้านรากหญ้าถึงรักทักษิณ ???

- รูปแบบการบริหารงานหน่วยงานราชการของทักษิณทำให้บรรดารากหญ้า รากแก้ว รากแขนง ตามชนบท ที่ห่างไกล เขาได้รับความสะดวกสบายเวลาไปติดต่อกับราชการ ไม่เชื่อลองไปทำบัตรประชาชนดูซิครับ รอ 10 นาทีได้บัตร เจ้าหน้าที่สุภาพเรียบร้อย เมื่อก่อนนี้ ทั้งวันไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า ขนาดคนแก่ยังถูกข้าราชการเด็กด่าเลย อันนี้ยังไม่นับการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการทำงานเพื่อลดความไม่โปร่งใสอย่างอื่น เรื่องการทำบัตรประชาชน ปลอมให้คนต่างด้าว ต่างๆ ....เมื่อก่อนรอเป็นวัน บางคนมาหลายวัน ห่อข้าวมากินก็ยังเคยเห็น ไม่มีพิเศษใต้โต๊ะ งานช้าเกินพิกัด เดี๋ยวนี้โล่ง....แบบนี้ชาวบ้านไม่ชอบก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว แต่ข้าราชการกังฉินไม่ชอบเพราะไปขวางเส้นทางทำเงิน

- การบริหารจัดการด้านการเอกสรงานที่ดินในยุคทักษิณเป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งที่คะแนนนิยมของทักษิณไม่เคยตกในหมู่ชาวบ้าน ในชนบท และในเมือง สมัยทักษิณเขาใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการจัดการแทนคน คนมาใช้บริการ มีลำดับที่ ชัดเจน สมัยก่อนจะทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน รอจนเหงือกแห้ง บางทีไม่เสร็จ ต้องห่อข้าวมากินใหม่อีกวันหนึ่ง อาเสี่ยหิ้วกระเป๋าเจมส์บอนด์มา ไม่ต้องรอคิว ไม่ถึงชั่วโมงเสร็จ .....ปัจจุบันนี้ ไม่ถึงชั่วโมงก็ เรียบร้อยยากดีมีจนเข้าคิวเหมือนกันหมด พี่ ป้า น้า อ าคนชนบท ไม่กาเบอร์ให้ทักษิณและไทยรักไทย ก็เป็นคนบ้าสติไม่สมประกอบแล้ว!!!!
- ผลงาน 30 บาทรักษาทุกโรค รพ. สมัยก่อนเป็นโรงฆ่าสัตว์ดีๆนีเอง ...อยากได้หมอดีๆ เอาใจใส่เยี่ยม ก็ต้องที่ รพ. เอกชน หรือคลีนิค ก็หมอที่เดียวกับโรงพยาบาลนั่นแหละ เวลาทำงานช่วงราชการหน้าบอกบุญไม่รับ ด่าเก่ง แต่เลิกงาบปุ๊บ มาประจำที่คลีนิค รพ.เอกชนปั๊บ กลายเป็นหมอใจดี พูดเพราะ ไปหมด .....ชาวบ้านเจ็บป่วยจะรักษาพยาบาลตัวเองแต่ละครั้ง ต้อง ขายไร่ขายนา มาจ่าย ค่ารักษา ...หมอเลยรวยมากกว่าคนอาชีพอื่น ..... มี30 บาท รักษาทุกโรค หมอ และ บริษัทประกัน ที่หากินกับ รพ.เอกชน เกลียดทักษิณ มาก เพราะมันจนลง .....แต่ชาวบ้านยิ้มแป้น ชอบใจ จ่ายแค่ 30 บาท รักษาตั้งแต่โรคจิตคิดอคติ ของสหายเพื่อนเก่า จนถึง ริดสีดวงทวาร ... จน รัฐบาลเถื่อนของทหารนักกอล์ฟอิจฉา...ยกเลิกเก็บเงินไปเลย ....แต่ เงินค่าหัวของประชากร คำนวนแล้วเกินกว่าระบบของรัฐบาลทักษิณ ....... สรุปแล้วคือรัฐจ่ายงบประมาณอุดหนุนเพิ่มขึ้น รายการรีดภาษีชาวบ้านไปโปะก็จะตามมา สรุปแล้วชาวบ้านจ่ายแพงกว่า ...พวกขิงแก่ บริหารไม่เป็น ราคาคุยทั้งนั้น.............แต่ที่แน่ๆ พวกสายหมอ ไม่ชอบทักษิณ .... ด้วยเพราะทักษิณบังอาจทำให้หมอรวยช้ากว่าที่ควรจะเป็น ... แต่ชาวบ้าน คนยากจน จ่ายแค่ 30 ไม่รัก..ทักษิณสุดใจขาดดิ้น ก็เกินไปแล้วใช่มั๊ย ????
- กองทุนชุมชน 1 ล้านบาท หนามตำใจของ แนวร่วมล้มทักษิณ .......การบริหารงบประมาณสมัยก่อนของ รัฐบาลชุดก่อนๆที่ชอบทำตัวเป็นปลัดประเทศ เอางบมาให้ แต่ไม่บอกชาวบ้าน รู้กันแค่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปลัด นายอำเภอ ผู้ว่า อธิบดีกรม และปลัด กระทรวง ตั้ง ชง กันในหมู่นักกิน ...นักกินเมืองเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ ขอเอี่ยว บางราย ตัวสั้นๆ ผู้รับเหมาใหญ่ ก็ บอกให้ราชการ ใส่ตัวเลขราคากลางของงานสูงเกินจริง จ่ายกัน กินกัน มันปาก ........ เงินกองทุน หมู่บ้าน เป็นการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ที่สุด ...คุณเพื่อนเก่า น่าจะไปเรียนรู้ สักปีหนึ่งนะครับ แล้วค่อยมาวิจารณ์ เรื่องประชาธิปไตย เพราะคุณมันเด็กๆ ถ้าเทียบกับ ประชาธิปไตยของชุมชน โดยผ่านกองทุนหมู่บ้าน ...........ชาวบ้านได้เงินมา เขาก็สุมหัวกัน ว่าเราจะเอาอย่างไร กับเงินก้อนนี้ ประชุมใหญ่คนทั้งหมู่บ้าน เลือกตั้ง กันเอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อย่าแหยม สิทธิเท่าเทียมกันหมด เวลาอยู่ในที่ประชุม .....ผมเคยไปประชุมกับเขาครั้งหนึ่ง แหม ขนลุกครับ คุณเพื่อนเก่า ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน พยายามจะชี้นำลูกบ้าน ถูกลูกบ้านตอกหน้าหงาย ...ผมจำติดตา หน้ามันเหลือแค่สองนิ้ว .....ชาวบ้านตกลงกันเอง สร้างกฏกติกากันเอง โปร่งใสทุกขั้นตอน โดยคนในชุมชน ทั้งหมด .........นี่ไงที่พวกศักดินาบ้าทะลุโลก มันถึงกลัวนักกลัวหนา .........ข้าราชการที่หากินกับงบประมาณของหลวง กลัวมาก กับความคิดประชาชน ที่ได้รับการหล่อหลอม สิทธิและเสรีภาพ ตามระบอบประชาธิปไตยบริสุทธิ์ ผ่านขบวนการบริหารเงินกองทุนก้อนนี้ ............ชาวบ้านทั้งประเทศไม่โง่แล้วครับ เราเข้าใจผิดมาตลอดว่าชาวบ้านโง่ แต่แท้ที่จริงแล้ว เขาฉลาดกว่าที่คุณคิด คุณเพื่อนเก่า และเพื่อนๆทั้งหลาย...... กระบวนการคิดแบบมีพัฒนาการทางสมองแบบนี้ไงครับที่ เอ็นจีโอ เอามาปั่นหัวชาวบ้านไม่ได้เหมือนแต่ก่อน ข้าราชการกังฉิน ต้องตอบคำถามชาวบ้านให้ได้เวลาเอางบลงพื้นที่ สรุปแล้ว กลุ่มคนที่จะทำมาหากินกับชาวบ้านยุคทักษิณ หลอกชาวบ้านกินยากขึ้น ....พวกศักดินาทำนาบนหัวคน ได้รับผลกระทบทั้งทาง
ตรงและทางอ้อม .....ต้องกำจัดทักษิณ และล้มพรรคไทยรักไทย เสีย ปฏิวัติ รัฐประหาร เป็น ทางเลือกทางเดียวของศักดินาบ้าทะลุโลก ที่จะหยุดพัฒนาการทางสมองของชาวบ้านได้
- คะแนนนิยมแบบนี้ไงที่อภิสิทธิ์ถึงออกอาการจับมือกับมารสื่อชั่วร้ายอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล นักวิชาการขายวิญญาน และทหารนักกอล์ฟ โดยมีนักธุรกิจใหญ่ เจ้าของสโลแกน ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย อย่างเสี่ยประชัยเป็นสปอนเซอร์ .... มาร์ค ม.7 ผู้อยากเป็นนายกจนตัวสั่น กลัวทักษิณ และพรรคไทยรักไทย หัวหด ไม่ยอมส่งผู้สมัครแข่ง แข่งไปก็แพ้ ผู้สนับสนุนก็ไม่กล้าจ่าย จ่ายไปแล้วไม่ได้เป็นรัฐบาล จะจ่ายทำลิงทำไม ....จึงเป็นที่มาของ เหตุการทำร้ายบ้านเมืองจนใกล้จะเข้าขั้นกลียุคในอนาคตอันไกล้นี้ ????
.............................t(-_- t)......................ตาดูดาวเท้าติด........ปืน^^"


Posted by : .... , Date : 2006-12-27 , Time : 19:47:27 , From IP : 172.29.3.39

ความคิดเห็นที่ : 3


   แค่เห็นคำว่าราชดำเนิน pantip สำหรับผมก็หมดความเชื่อถือแล้วครับ ....
แต่ห้องอื่นยังพอเข้าไปเล่นได้ อิอิ.....



Posted by : ไม่ชอบเหลี่ยมแล้วไม่ปลื้มแป๊ะส , Date : 2006-12-27 , Time : 22:58:23 , From IP : 192.168.66.179

ความคิดเห็นที่ : 4


   แค่เห็นห้องราชดำเนินก็ขี้เกียจอ่านแล้ว เพราะห้องนี้ก็ขี้ข้า คุณทากกกก... นั่นเอง

Posted by : ไม่ชอบ แม้ววว , Date : 2006-12-28 , Time : 12:03:56 , From IP : 172.29.4.88

ความคิดเห็นที่ : 5


   เห็นด้วยว่าคนไทยเราชอบตามกระแส

คิด-วิเคราะห์เองเป็นไหม เชื่ออะไรง่ายๆเกินไป

ไม่ค่อยมีหลักการอะไร กฏหมายมีไว้ทำไม

กฏหมายมันไม่ถูกใจเราหนิ กฏหมู่ย่อมดีกว่าแน่นอน

ปี40 เราใส่เสื้อเขียวกันทั้งประเทศ ออกมาเรียกร้องรัฐธรรมนูญ สภาร่างรัฐธรรมนูญภายใต้การบริหารโดยอานันต์ ปันยารชุน ได้รัฐธรรมนูญที่ถือว่าสุดยอดที่สุดแล้ว ผ่านการคัดกรอง ออกแบบ มีการทำประชาพิจารณ์ คนไทยมีส่วนร่วมกันมากมาย

ปี49 ผู้มีอาวุธ ออกมาบอกว่ารัฐธรรมนูญปี40 ใช้ไม่ได้ ต้องร่างกันใหม่

ไม่รู้ว่าเราต้องร่างกันอีกกี่ฉบับนะครับ

ประเทศที่เขาพัฒนาแล้ว ไม่เห็นเป็นแบบนี้

เคยเข้าไปเว็ปผู้จัดการ แสดงความเห็นไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกับเขา เขาไม่แสดงข้อความที่เราโพสต์นะครับ แต่เข้าพันธ์ทิป มีโอกาสได้อ่านความเห็น 2 ด้านเสมอ อยู่ที่ว่าเราอ่านแล้วแยกแยะให้ได้ ต้องมีเหตุมีผล คิด-วิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ส่วนใหญ่เราจะถูกโมหจริต เข้าครอบงำ

อะไรที่ไม่ตรงกับที่เราคิด เราจะไม่ชอบใจ แล้วเราก็ไม่ยอมรับ ทั้งๆที่มันมีเหตุผลที่ดีอยู่ด้วย

ต้องยอมรับจริงๆครับ ว่าประเทศเรายังไม่พัฒนาเท่าทีควร

ชาวบ้าน สื่อมวลชน การศึกษา ต้องพัฒนากันต่อไป


Posted by : กระแส , Date : 2006-12-28 , Time : 23:12:06 , From IP : 172.29.5.221

ความคิดเห็นที่ : 6


   คุณเจ้าของกระทู้ โปรดสำนึก คนไทย (ไม่ใช่คุณ) ฉลาดพอที่จะตัดสินใจได้ว่า อะไรผิด อะไรถูก ใครทำอะไร อย่างไร

Posted by : ctv , Date : 2006-12-29 , Time : 09:24:17 , From IP : 172.29.1.100

ความคิดเห็นที่ : 7


   ถ้าจำไม่ผิด เรื่องเกาะกูด คือเรื่องสุดท้ายที่สนธิ ให้ร้ายคนอื่น

พี่น้องครับ มีใครเคยไปเที่ยวเกาะกูดบ้าง เป็นเกาะที่สวยงามเกาะหนึ่งในประเทศของเรา

พี่น้องรู้หรือเปล่า ว่าเขากำลังจะยกเกาะกูดของเราไปให้เขมรแล้ว

เพื่อแลกกับสัมปทานโทรคมนาคมในประเทศเขา

ดีที่ผมออกมาตั้งข้อสังเกตุไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นเรียบร้อยไปแล้วพี่น้อง





ไอ้บ้า ใครเชื่อเอ็งก็ควายแล้ว



Posted by : สาดดดสนธิ , Date : 2006-12-30 , Time : 17:21:47 , From IP : 172.29.5.221

ความคิดเห็นที่ : 8


   พ่อก็จีน แม่ก็จีน แล้วจะมาทวงคืนแผ่นดิน ถุย พวกคนที่บริจาคช่วยเหลือสนธิก็เหลือเกิน แทนที่จะสนับสนุนคนที่ทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง ให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า กลับมาสกัดกันเอง แล้วยังนี้เมื่อไหร่จะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วกับเขาเสียที ตั้งนมนานก็สนับสนุนแต่พอทำตัวเองเป็นหนี้จะให้เขาช่วย เขาไม่ช่วยก็แค้นสิทีนี้ กระพือข่าวสารพัด แม้กระทั่งดูหมิ่นพระปรมาภิไทยอันเป็นเหนือหัวของปวงชนชาวไทย แล้วยังนี้จะเรียกว่ากู้ชาติหรือ กู้ให้ใคร คนที่สนับสนุนก็เชิญรักกันต่อไปนะ รู้จริงมากน้อยเท่าไหร่เรื่องการเมือง แหมสนับสนุนกันอยู่ได้ เขาหลบหลู่ถึงในหลวงแล้วยังรักกันแน่นปึกอีก คนไทยหรือเปล่า

Posted by : คนรู้น้อยแต่รักในหลวง , Date : 2007-02-28 , Time : 10:34:10 , From IP : ppp-58.9.111.209.rev

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<