ความเครียดของ จนท.opdจาก ผู้บริหารopd. ในสายตาของผ้บริหาร เป็นงานสบาย แต่ขณะนี้ไปถามจนท.ทุกระดับได้เลยไม่มีใครอยากทำงานอยู่ opd เลย Posted by : 123 , E-mail : (mdicine) , Date : 2006-12-26 , Time : 20:31:40 , From IP : 172.29.7.192 |
ช่วยขยายความได้ไหมครับ มีเหตุผลอะไรที่ไม่อยากอยู่ OPD และมีเหตุผลอะไร ก่อนหน้านี้ ถึงอยากย้ายไปอยู่ OPD Posted by : อยากรู้ , Date : 2006-12-26 , Time : 21:11:39 , From IP : 203.114.115.10 |
ไม่ทราบว่าผุ้บริหารจะทราบไหมครับว่า opd ก็ทำงานจนถึง3ทุ่ม-4ทุ่ม(วันราชการ) วันหยุดราชการก็มาทำแต่ทุกคนยินดีทำเพื่อ หน่วยงานของ opd ไม่มีใครบ่น แต่ปัจจุบันและอนาคต ทุกคนจะถูกบังคับให้ไปทำที่ ERด้วย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่ถนัดเลย เครียด มาก Posted by : ขอออกความเห็นอีกคน , E-mail : (dogdag) , Date : 2006-12-26 , Time : 22:09:02 , From IP : 172.29.7.97 |
ใช่ๆๆๆ กำลังจะ break down แล้ว ช่วยด้วยจ้า ทั้งเหนื่อยล้าและอ่อนแรง Posted by : 22 , E-mail : (22) , Date : 2006-12-27 , Time : 21:16:26 , From IP : 172.29.5.138 |
แต่อย่างไรเราก็ยังรัก OPD นะ คงไม่ทุกคนหรอกนะที่ไม่อยากอยู่ OPD ทุกข์บ้าง สุขบ้างคงเป็นเรื่องธรรมดานะ ขอให้สุขมากกว่าทุกข์ก็พอแล้ว ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง ขอจงมีพลังที่จะทำความดี ขอจงมีกำลังใจที่จะก้าวต่อไป บนเส้นทางที่เราได้เลือกแล้ว คงมีบางอย่างที่ดีกว่าเส้นทางเดิม แต่คงไม่ดีทุกอย่างหรอกนะ Posted by : คนรักOPD , E-mail : (..) , Date : 2006-12-28 , Time : 21:35:16 , From IP : 172.29.5.46 |
งานหนัก คุณภาพเหมือนจะสูง แต่อาจไม่สูงจริง งบน้อย เครื่องมือเก่า Posted by : เห็นด้วยอย่างยิ่ง , Date : 2006-12-29 , Time : 12:51:20 , From IP : 172.29.10.243 |
ผมเห็นใจบุคคลากรทุกหน่วยจริงๆๆและมากๆๆ ครับ โดยเฉพาะสายสนับสนุน(สมมติมีแค่ฝ่ายบริหาร-สนับสนุน) *สายบริหารท่านขึ้นมาเพราะภาระหน้าที่บนพื้นฐานของความเป็นคน(มีนัยะ) ส่วนสายสนับสนุนอยู่บนพื้นฐานของภาระจำยอม ถ้าเราคิดถึงภาวะสมดุล(ทำงานให้สนุก-เป็นสุขกับการทำงาน)ทั้งสองฝ่ายต้องอยู่บนพื้นฐานของความฝันที่อย่ในกรอบของอุดมการณ์ ปรัชญา ทัศนวิสัย นโยบาย และแนวทางปฏิบัติขององค์กร(จุดเริ่มต้นของ ส6-ส7)ในเป้าหมายเดียวกัน เดินในทิศทางเดียวกัน ทุ่มเทเสียสละเหมือนกัน สำเร็จด้วยกัน(ลาภ-ยศ-สรรเสริญเท่าเทียมกัน) ดูตัวอย่าง วีดีทัศน์ที่ชมรมทัศนศึกษาเอามาให้ชม*ล่องทะเลตรัง-กระบี่*ทุกคนเบิกบาน ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยโดยเฉพาะคณะทำงาน ไม่มีแยกแยะ ขณะที่กิจกรรมดำเนินการบนวัฒนธรรมไทย(เคารพผู้อาวุโส เกื้อกูลกันเป็นต้น) ผมว่านี่เป็นตัวอย่างที่ดีมาปรับใช้กับการทำงาน *ผมเสนอว่าเราให้เวลากับ ส6-ส7มากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการจัดการกับงานที่ล้นหลาม *เราสามารถกำหนดปริมาณงานที่สามารถทำได้ดีโดยให้เหตุผลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อบุคคล ต่อเครื่องมือ(สมรรถนะทางกายและใจ)และสิ่งแวดล้อม *เรากำหนดความสุขของเราที่ ความภาคภูมิใจในธรรมะแห่งอาชีพบนพื้นฐานของความรู้คู่คุณธรรม(จิตวิญญาณ-ความเป็นหนึ่งเดียว)ความรู้สึกที่แท้สัมผัสได้คือ ปิติ มีน้ำตาไหล อิ่มเอิบแน่นในอก เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อคิดถึงกี่ครั้งก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม *ผู้ป่วยเก่าโอพีดีให้ชั่ง น.น.วัดความดันฯ ชีพจร วัดอุณหภูมิเอง กรอกข้อมูลระบบดิจิตอลเองให้เน็ตกับเคาเตอร์พยาบาล อาจจัดเจ้าหน้าที่ดูแล/ช่วยเหลือ 1 คนต่อ10 เครื่อง อาจทำใบนัดแบบบาร์โค๊ตสำหรับผู้ป่วยเก่า เป็นต้น *ทำชุมชนแนวปฏิบัติให้เข้มข้น *สุดท้ายต้องกำจัดผู้บริหารที่ใช้อารมณ์สร้างสุขให้ตัวเองโดยทำร้ายผู้ทำงาน กำจัดผู้ไม่อยู่ในกรอบองค์กรอย่างจริงจัง มีหน่วยจัดการข้อพิพาทเบื้องต้นที่เป็นกลาง ฯลฯ Posted by : อำนาจ รัตนบุรี , E-mail : (ramnach@medicine.psu.ac.th) , Date : 2007-01-04 , Time : 12:31:19 , From IP : 172.29.3.12 |
พยาบาลOPD ลาออก หรือย้ายหน่วยงานเพราะ -เมื่อรับพยาบาลใหม่ลงไปต้องไป turn หลายๆ OPD ต้องปรับตัวอยู่ตลอด สร้างความเครียดอยู่ตลอด ต้องปรับทั้งคน หมอ ความรู้ โรค ทุกคนต้องมีความถนัดของตัวเอง -พยาบาลใหม่อยู่ไม่ทนเพราะต้องเป็นคนแรกที่โดนไป float OT ที่อื่น -มีบาง OPD เครียดจัด มีคนจ้องจะหนีอยูตลอด **** ****ควรคิดกันว่าจะมีการแก้ปัญหากันอย่างไรดีนะ เพื่อจะได้ทำงานกันอย่างสบายใจ ถึงแม้งานจะหนักก็ไม่ท้อ Posted by : 007 , E-mail : (มุมมองจากคนภายนอก) , Date : 2007-02-21 , Time : 13:52:32 , From IP : 172.29.7.40 |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.011 seconds. <<<<< |