ความคิดเห็นทั้งหมด : 4

ขอเรียนถามและขอคำแนะนำด้วยความเคารพจากคุณ Phoenix ครับ


   เรียน คุณ Phoenix ที่เคารพ
...........ผมขอเรียนถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี่นิดนึงได้ไหมครับ......ผมขออนุญาตไม่เอยถึงรายละเอียดในที่นี่...ด้วยคาดหวังว่าคุณน่าจะทราบแล้ว....."ผมควรทำอย่างไรดีครับ"............นั่นเป็นคำถามแรก......ส่วนอีกคำถามนึงนี่....ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไรครับ....ผมขอถามคุณตรงๆเลยนะครับ....."ถ้าผมคิดและพยายามจะทำในแนวทางที่คุณเคยแนะนำไว้....คุณยินดีจะช่วยผมไหมครับ"..........ขอขอบคุณที่กรุณาตอบครับ......



Posted by : Death , Date : 2003-09-08 , Time : 12:43:10 , From IP : 172.29.3.104

ความคิดเห็นที่ : 1


   เรียนคุณ death ทราบ

เป็นเรื่องปกติที่เราทุกคนเคยผ่านวัยที่เรา "รู้" ว่าเราเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนผิวโลกนี้ สิ่งต่างๆที่ "Obvious" ในสายตาของเรา แต่ทำไมผู้บริหารไม่มีสักคนเดียวที่เข้าใจ และทำให้เราหงุดหงิดเอามากๆ

หลังจากนั้น reality check-in โลกไม่ได้ so simple อีกต่อไป คำว่า "ที่สุด" กลายเป็นแค่ "กว่า" (ก็ดีถมไปแล้ว) คำว่า "ยุติธรรม" (หรือ more likely "อยุติธรรม") กลายเป็น "ประนีประนอม" ที่เคยเห็นแต่ "ผลลัพธ์" ก็เริ่มมี "ยุทธวิธี" เข้ามาเกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น

คำถามของคุณ Death นั้น สามารถตอบได้ และตอบได้หลายแบบด้วย แต่ผมพอจะสรุปได้ว่าทั้งหมดนั้นน่าจะขึ้นอยู่กับ "วิธี" ที่คุณ Death เลือกใช้ในการปฏิบัติเพื่อให้ได้ตามจุดมุ่งหมายที่มี บางทีเมื่อเรา mature เราจะทราบว่าการทำงานร่วมกับผู้อื่นนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงาน เป็นหัวใจที่สำคัญในการบริหารจัดการ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีทั้ง "พระเดช และพระคุณ"

พระเดชนั้นจำเป็นต้องใช้ในกรณีจำเพาะ คนที่จะมี "พระเดช" ได้ จะต้องมี authority ซะก่อน authority จะมาจาก "ผลงาน" "วัยวุฒิ" "คุณวุฒิ" และที่สุดคือ "ตำแหน่งหน้าที่" ถ้าใครยังไม่มีทั้งสี่ประการนี้ แล้วจะ exert พระเดช จะมีอัตราเสี่ยงสูงที่เหตุการณ์จะตีกลับใส่ตัวเอง ถ้าผมจะกล้าวิเคราะห์ในกรณีของคุณ Death ผมอยากจะเดาว่าเป็นการเลือกใช้พระเดชโดยที่คุณสมบัติประการใดประการหนึ่งจากทั้งสี่ประการยังไม่พร้อม สาเหตุที่ผมเรียกการกระทำที่แล้วมาว่าเป็นพระเดชเพราะว่า ที่ผ่านมาเราเรียก "บทบาท" นั้นว่าเป็น "ตำรวจ ศาล และ เพชรฆาต" whole-in-one นั่นคือเป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ตัดสินว่าผิด และ ผู้วางมาตรการและลงโทษ ไปในบทบาทเดียว กระบวนการเดียว ไม่ต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงว่าจะเป็นการหวังดีแค่ไหน หรือ wholesome deed อย่างไร แต่ action กับ "required property" ไม่ไปด้วยกัน credibility จึงไม่เกิด

"จะต้องทำอย่างไร?" โชคดีที่เราทุกคน (หรือส่วนใหญ่) สามารถผ่านระยะนั้นมาได้ เพราะเมื่อเรายังไม่มีคุณสมบัติที่จะเลือกใช้พระเดช เราก็ต้องหันไปเลือกใช้พระคุณ หรือวิธีอื่นที่เหมาะสมแก่วุฒิภาวะของเรา สำคัญมากที่เราจะต้อง check ตรวจสอบ "วุฒิภาวะ" ของเราบ่อยๆ ว่าเรามี "บทบาท" อะไร แค่ไหน เราต้องพิสจน์ตัวเราแค่ไหนจึ้งจะสร้างสั่งสมสิ่งต่างๆที่จะเหมาะสมกับ action ที่เราจะเลือกใช้เมื่อเราโตขึ้น แก่ขึ้น มีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น ดังนั้นที่คุณ Death อาจจะรับไว้พิจารณาในขณะนี้ก็คือ ตรวจสอบบทบาทของตนเอง และจัดลำดับความสำคัญของหน้าที่ และก็ปฏิบัติไปตามนั้น เรียนรู้ทุกอย่างทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี จดจำและคิดไว้ว่า "เมื่อถึงคราวเรา" เป็นผู้ตัดสินใจ อะไรเป็นสิ่งที่เราจะทำ หรือหลีกเลี่ยง คุณ Death คงจะต้องการเป็น "ศัลยแพทย์" เต็มตัว น่าจะเป็นลำดับความสำคัญที่มากที่สุดรึเปล่า? ขึ้นอยู่กับความพิจารณาไตร่ตรองของตัวคุณเอง ถ้าใช่ อะไรจะเป้น "กลยุทธ์" เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ และข้อสำคัญ อะไรจะเป็นตัว "distraction" ออกจากมรรคาที่ได้วางไว้ จะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลาอย่าให้เบี่ยงเบนออกจากทางที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้แต่แรกเริ่ม

ถ้ายังไม่ตอบคำถาม หรือไม่ครอบคลุม สามารถขยายความได้

อีกคำถามขอแยก เพื่อไม่ให้ยาวเกิน



Posted by : Phoenix , Date : 2003-09-08 , Time : 18:28:01 , From IP : 172.29.3.248

ความคิดเห็นที่ : 2


   ผมเคยเขียนไว้ครั้งหนึ่งนานมาแล้วว่าปรัชญาพื้นฐาน "ครู กับ แพทย์" มีอะไรร่วมกันอยู่ประการหนึ่งคือ Optimism ครูนั้นต้องคิดว่า "คนทุกคน" สามารถรู้มากขึ้น ดีขึ้น และเขาสามารถมีบทบาทที่จะทำให้เกิด แพทย์นั้นต้องคิดว่า "คนทุกคน" สามารถหายจากป่วย หรือ อาการดีขึ้น และเขาสามารถมีบทบาทที่จะทำให้เกิด ผมไม่อาจจะ classify ว่าผมเป็นครูหรือแพทย์ที่ดีได้ แต่ผมคิดว่าตัวผมเอง optimistic

ผม optimistic หลายๆอย่าง และทราบว่า optimistic อย่างเดียวนั้นไม่ work จะต้องมี "ต้นทุน" อื่นๆด้วย ครูจะต้องมีความรู้ มีจริยธรรม รู้วิธีการถ่ายทอด จึงจะสอนคนให้รู้ มีคุณธรรม แพทย์จะต้องมีความรู้ มีจรรยาบรรณ รู้วิธีรักษา จึงสามารถยังกิจหน้าที่ของตนให้สำเร็จ ถ้าคุณ Death คิดว่าผมมีคุณสมบัติพอเพียง เราจะสามารถช่วยกันทำอะไรให้เกิดได้เยอะ (นี่คือสินค้าตัวอย่างของ Optimism ของผม)

ลำบากใจนั้นไม่เคยเกิด ถ้าตราบใดที่เรายังมีช่องว่าง "ให้เข้าถึง" กันได้ ตกลงวันที่ ๑๓ นี้ยังมีงานกินกันอยู่รึเปล่า บางทีเราอาจจะเริ่มกันจากจุดนั้นก็เป็นได้ (ถ้าไม่กลัวงานจะกร่อย)



Posted by : Phoenix , Date : 2003-09-08 , Time : 18:40:20 , From IP : 172.29.3.248

ความคิดเห็นที่ : 3


   น่ายินดี น่ายินดี


Posted by : megumi , Date : 2003-09-08 , Time : 20:06:26 , From IP : 172.29.3.137

ความคิดเห็นที่ : 4


   .........ขอบคุณครับ......ผมพอจะเข้าใจครับ....เฮ้อออออออออออ......:D...:D
............ส่วนวันที่ 13 นี่จะจัดครับรายละเอียดจะตั้งขึ้นมาอีกกระทู้ครับ.....ส่วนเรื่องงานกร่อยอะไรนั่นคงไม่หรอกครับ.....ถ้าว่างขอเรียนเชิญด้วยครับ(รับบริจาคทุนทรัพย์หรือสุราทรัพย์ด้วยครับ...:D...).....เมาสักวันก็คงดีเหมือนกัน....:D...:D

Its not enough to make the nightmare go away
Its not enough to make the tears run dry
Its not enough to live a little better everyday
Everything that they taught us.....was nothing but lies
Everything that they bought us.....was nothing but bribes
- Original Sin - Meat Loaf



Posted by : Death , Date : 2003-09-08 , Time : 23:31:15 , From IP : r39-skaHS1.S.loxinfo

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<