ความคิดเห็นทั้งหมด : 1

โชคดีที่เกิดมาในโลกใบนี้


   โชคดีที่ได้เกิดมาในโลกใบนี้_ มติชนรายวัน 03 12 06

โดย นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์ drwithan@hotmail.com



เมื่อเร็วๆ นี้เอง (พฤศจิกายน 2549) อาจารย์วิศิษฐ์ วังวิญญู ได้เขียนจดหมายอี-เมลถึงทุกๆ คนในชุมชนเชียงรายที่ทำงานในมูลนิธิสังคมวิวัฒน์ว่า อาจารย์รู้สึกดีใจที่ได้เห็นการเติบโตของทุกๆ คนในชุมชน เห็นความสมัครสมานสามัคคี หันหน้าเข้าหากัน พูดคุยและเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ ทางความคิดและสติปัญญาซึ่งทำให้ชุมชน "เกิดความรู้ใหม่ๆ" ตลอดเวลา อีกทั้งการงานที่พวกเราใช้ "สุนทรียสนทนา" เป็นพื้นฐานสำคัญในการทำงานให้กับองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์การทางสาธารณสุข องค์กรด้านการศึกษา รวมไปถึงบริษัทเอกชนใหญ่ๆ ก็ประสบความสำเร็จเกิดการเรียนรู้และความเข้าอกเข้าใจกันที่ค่อยๆ แผ่ขยายไปเป็นวงที่กว้างมากขึ้นเรื่อยๆ

อาจารย์วิศิษฐ์เขียนประโยคหนึ่งในตอนท้ายของจดหมายชุมชนฉบับนี้ว่าอาจารย์ "รู้สึกโชคดีที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้"

เมื่อเดือนธันวาคม 2544 หรือเมื่อประมาณห้าปีผ่านมาแล้ว นับเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับอาจารย์หมอประเวศ วะสี ในเรื่องของงานที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณสุข ก่อนหน้านั้นแม้จะเป็นลูกศิษย์อาจารย์ที่ศิริราชมาก่อน ก็เป็นเพียงการฟังเรื่องราวที่อาจารย์บรรยายเรื่องราวทางวิชาการทั่วไปแต่ผมก็ยังไม่เคยมีโอกาสสนทนาอย่างใกล้ชิดกับอาจารย์เท่าในครั้งนั้นเลย ในวงสนทนาเล็กๆ ซึ่งมีอาจารย์วิศิษฐ์ วังวิญญู ร่วมวงอยู่ด้วย ในวันนั้นผมฟังอาจารย์พูดถึงงานที่อาจารย์ได้ทำมาและอยากจะทำให้เกิดขึ้นในระบบสาธารณสุขไทย ด้วยเวลาประมาณเกือบสองชั่วโมงที่พูดคุยกัน ผมมองเห็นแววตาและรู้สึกถึงความมุ่งมั่นศรัทธาของอาจารย์หมอประเวศเมื่อพูดถึงเรื่องงานที่ได้ทำและงานที่จะทำ ในการสนทนาวันนั้นแม้ว่าอาจารย์หมอประเวศจะไม่ได้พูดคำว่า "โชคดีที่ได้เกิดมาในโลกใบนี้" แต่อากัปกิริยาและคำพูดอื่นๆ ของอาจารย์ล้วนแต่แสดงออกมาเป็นทำนองนี้เช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นในกิจกรรมกระบวนการเรียนรู้ที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมพบว่าเมื่อเราสามารถจัดพื้นที่ให้กับผู้คนได้มีโอกาส "ค้นพบตัวเอง" ได้แล้ว พวกเขาเหล่านั้นก็มักจะมีคำพูดหรือการแสดงความรู้สึกที่เป็นไปในทำนองเดียวกันนี้ เช่น รู้สึกโชคดีที่ได้มาเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ในครั้งนี้ หรืออยากจะให้คนใกล้ชิดได้มีโอกาสเรียนรู้แบบนี้บ้างหรือรู้สึกว่ามีพลังมีแรงบันดาลใจที่อยากจะกลับไปทำงานในที่เดิมให้มีความสุขและประสบความสำเร็จหรือล่าสุด (ปลายพฤศจิกายน 2549) ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน ลุงเสริฐ วัย 52 ปี หัวหน้าคนสวน ที่แม้ว่าเขาจะจบเพียงชั้นประถมสี่ ก็ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราวของเขาต่อหน้าคุณหมอกิติศักดิ์ เกษตรสินสมบัติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้วยแววตาที่เป็นประกายสุกใสว่าเขารู้สึกโชคดีและภาคภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสทำงานรับใช้ผู้คนในโรงพยาบาลปัว

หรือเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมาย

ผมรู้สึกว่าเวลาที่มีใครสักคนพูดว่า "เขาหรือเธอรู้สึกโชคดี (มาก) ที่ได้เกิดมาในโลกใบนี้" ช่างเป็นคำพูดที่ได้ "ซุกซ่อน" เอา "ความรู้สึกดีๆ" ซึ่งถูก "หลอมรวม" เอาไว้มากมายอยู่ในคำพูดง่ายๆ เพียงประโยคเดียวประโยคนี้

หนึ่ง คือคนพูดจะต้องรู้สึกว่าตัวเองกำลังมีความสุขอย่างมากเป็นพิเศษ

สอง คนพูดจะต้องกำลังรู้สึกถึงความ "ขอบคุณ" ต่อโลกใบนี้เป็นพิเศษ ขอบคุณต่อทุกชีวิตทุกสิ่งในโลกใบนี้

สาม เมื่อพูดได้แบบนี้ คนพูดจะต้องรู้สึก "เชื่อมโยง" เป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่ง จะต้องรู้สึกเชื่อมโยงกับผู้คนต่างๆ มากมาย รู้สึกเชื่อมโยงกับสรรพสิ่งต่างๆ อากาศที่หายใจเข้า การรู้สึกว่ามีชีวิตอยู่ขยับร่างกายได้ หรือรู้สึกเชื่อมโยงกับสายลม แสงแห่งดวงตะวัน โลกใบนี้และแม้แต่เชื่อมโยงไปถึงสิ่งที่อยู่ออกไปไกลมากในความมืดมิดที่เราไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน

สี่ คนที่พูดจะต้องรู้สึกถึงการดำรงอยู่ ณ ปัจจุบัน ของเขาในขณะนั้น ทุกอย่างที่มีอยู่ในชีวิตดูจะเพียบพร้อม มีคุณค่าให้ชื่นชม อุดมสมบูรณ์ เพียงพอและพอเพียง

ห้า คนที่พูดได้แบบนี้ คนพูดจะต้องรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเขาเอง "ได้ทำหน้าที่" อะไรบางอย่าง บรรลุวัตถุประสงค์ด้านในที่ซ่อนลึกอยู่ในจิตใจของเขา ความปรารถนาที่ตั้งใจไว้ หรือบางทีอาจจะหมายถึงความสำเร็จบางประการหรือทั้งหมดของ "ภารกิจแห่งการที่แต่ละคนได้เกิดมาในโลกใบนี้"

หก ผมมีความรู้สึกว่าคำพูดประโยคนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ในทำนองเดียวกันกับ "มนตรา" หรือ "คำสวดมนต์" ที่ขลังๆ เลยทีเดียว เป็นคำพูดง่ายๆ ที่ทำให้เราได้กลับมา "ใคร่ครวญ" ถึง "ความมหัศจรรย์" ที่ธรรมดาๆ และเรียบง่าย

เจ็ด ผมยังพบเสมอว่า ผู้คนที่สามารถเปล่งคำพูดประโยคนี้ออกมาได้และด้วยความรู้สึกที่แท้จริงด้านใน พวกเขาเหล่านั้นมักจะเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจ ทำงานไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย อาจจะเป็นเพราะว่า "คำถามที่ตามมาในใจ" ของพวกเขาเหล่านี้ก็คือ ในเมื่อรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เกิดมาในโลกใบนี้แล้วก็คือ คำถามที่ว่า "แล้วตัวฉันจะช่วยทำประโยชน์อะไรให้กับโลกใบนี้บ้างล่ะ?"

ผมพบว่า ณ ขณะนั้น จะเป็นสภาวะที่มหัศจรรย์ยิ่งนัก หากมีใครสักคนสามารถเปล่งคำพูดประโยคนี้ออกมาได้ บางทีไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอันใดที่ทำให้พวกเรามักจะลืมเลือนคำพูดง่ายๆ ประโยคง่ายๆ ทำนองนี้ไป "ฉันรู้สึกโชคดีที่............."

ก็เลยพาให้คิดต่อว่า หากว่าเราจะได้มีโอกาสเปล่งคำพูดนี้ออกมาในทุกๆ เช้าที่เราได้ลืมตาตื่นขึ้นมา หรือก่อนนอนหลังจากสวดมนต์ไหว้พระแล้ว ค่อยๆ ให้เกิด "อาการซึมลึก" ต่อถ้อยคำประโยคนี้ ก็อาจจะช่วยทำให้เราได้มีโอกาสสัมผัสกับความรู้สึกที่ดีและมหัศจรรย์เช่นนั้นได้เช่นเดียวกันหรือไม่?

พวกเราส่วนใหญ่โดยทั่วไปมักจะนึกถึงความมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่เกรียง "ไกร" ก็เลยทำให้ "ไกล" ตัวมากเกินไป เราไม่รู้หรอกว่าการได้มีโอกาสยืนอยู่ ณ ตรงนั้น มีลมหายใจได้ ณ เวลานั้น สายลมแสงแดดและทุกสรรพสิ่งล้วนแล้วแต่เกื้อหนุนให้เราได้มีโอกาสตรงนั้น ก็นับได้ว่านี่เป็นความยิ่งใหญ่เกรียงไกรเสียเต็มประดาแล้ว

เป็นความมหัศจรรย์ที่แสนจะเรียบง่ายธรรมดาเหลือเกินครับกับการที่เรารู้สึกว่า "เราโชคดีที่ได้เกิดมาในโลกใบนี้"


Posted by : อะคร้าว , Date : 2006-12-12 , Time : 08:31:31 , From IP : 172.29.2.182

ความคิดเห็นที่ : 1


   อยากเกิดในดาวอังคารใหม

Posted by : อิงอิง , Date : 2006-12-23 , Time : 21:55:27 , From IP : 172.29.3.220

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<