แบ่งปันข้อมูล แหล่งหาทุนต่างประเทศเรียนปริญญาเอกและเหตุผลที่ควรเลือกเรียนในยุโรปแผ่นดินใหญ่
ขออนุญาตแบ่งปันความรู้เล็กๆน้อยๆครับ
ผมพอจะรู้ข้อมูลว่า ปัจจุบันยังมีคนไทยเลือกมาศึกษาต่อในยุโรปแผ่นดินใหญ่ (หมายถึง ส่วนของยุโรปที่ไม่นับรวมเกาะอังกฤษ) จำนวนน้อยมากๆๆ หากเทียบกับ นักศึกษาจากชาติอื่นๆที่เข้ามาเรียน ยิ่งถ้าเป็นคนไทยที่ได้ทุนของสถาบันการศึกษาในยุโรปเองด้วยแล้ว ยิ่งมีน้อยมากๆๆๆ ทั้งๆที่การหาทุนไม่ใช่เรื่องยากเลย
เหตุผลที่ควรเลือกเรียนในยุโรปแผ่นดินใหญ่
1 ระบบการให้ทุน
การเรียนระดับปริญญาเอกโดยทั่วไปในยุโรป (ยกเว้นอังกฤษ) มหาวิทยาลัยให้ทุนกับผู้เรียนในลักษณะการจ้างเป็นนักวิจัย ผู้เรียนปริญญาเอก มีสถานภาพเป็น "ลูกจ้าง" หรือคนทำงานวิจัยให้กับมหาวิทยาลัย และได้ค่าตอบแทนในการทำวิจัยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว กรณีเช่นนี้โดยทั่วไป นักวิจัยระดับปริญญาเอกไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน หรือถ้าต้องจ่ายก็อาจจ่ายเพียงเล็กน้อยซึ่งส่วนใหญ่เป็นบค่าธรรมเนียมต่างๆที่มหาวิทยาลัยเรียกเก็บ
ระบบการให้ทุนแบบนี้ต่างจาก ประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย หรืออเมริกา เพราะนักวิจัยระดับปริญญาเอกในประเทศเหล่านี้ (ส่วนใหญ่) มีสถานภาพเป็น นักศึกษา ซึ่งจำเป็นต้องเสียค่าเล่าเรียน และถ้าเป็น นศ ต่างชาติก็ต้องเสียในอัตราที่สูงมากมายมหาศาล โดยเฉพาะสายแพทย์ ด้วยเหตุนี้ ทุนที่จ่ายค่าเล่าเรียนให้เต็มอัตรา นศ ต่างชาติจึงมีน้อยในอังกฤษ และที่มีก็มีการแข่งขันสูงมากๆ โอกาสได้ทุนก็ยากมากๆๆ ตามไปด้วย ดังนั้นการหาทุนเรียนปริญญาเอกในยุโรปแผ่นดินใหญ่โอกาสจะได้ทุนมีง่ายกว่าการหาทุนเรียนในอังกฤษ
2 เงินทุนจำนวนมาก
ค่าจ้างที่เป็นค่าตอบแทนในการทำวิจัย ซึ่งเป็นค่ากินอยู่นั้น โดยทั่วไปจะค่อนข้างสูงหรือสูงมากๆในบางประเทศ เช่น ในเนเธอร์แลนด์ นักวิจัยระดับปริญญาเอกได้ค่าจ้างเป็นรายเดือนเฉลี่ยสูงถึง 2000 ยูโร หรือมากกว่า ทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายในการกินอยู่สำหรับ นศ ตกประมาณเดือนละ 700-900 ยูโรเท่านั้น อีกกรณีหนึ่ง ญาติของผมเองปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาเอกในสวิสต์เซอร์แลนด์ ได้ทุนศึกษาต่อจากรัฐบาลไทย ซึ่งให้ค่าใช้จ่ายส่วนตัวรายเดือน 1800 ฟรังสวิสต์ ซึ่งก็พอเพียงต่อการกินอยู่ แต่เมื่อเขาเริ่มเข้าศึกษาในประเทศนี้ เขายังได้รับเงินค่าจ้างวิจัยจากทางมหาวิทยาลัยด้วยเป็นจำนวน 3000 ฟรัง/เดือน จนกระทั่งทำงานวิจัยและเขียนเป็นงานวิทยานิพนธ์จนสำเร็จ เงิน 3000 ฟรังที่ได้จากทางมหาวิทยาลัย ลำพังเงินเพียงส่วนนี้ก็สามารถทำให้เขาใช้ชีวิตอยู่อาศัยในสวิสต์ได้อย่างหรูๆ ในช่วงเวลาที่ศึกษา อีกตัวอย่าง เช่น International Max Planck Research School ในเยอรมัน นศ ที่ได้รับทุนระดับปริญญาเอก และมีสามีหรือภรรยาหรือบุตรที่ติดตามมาด้วย ทางสถาบันยินดีให้เงินค่าใช้จ่ายส่วนตัวเพิ่มเติมสำหรับผู้ติดตามและกรณีที่มีบุตรหลายคน ก็จะได้รับเงินจำนวนเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
กรณีญาติของผมที่เรียนในสวิสต์เซอร์แลนด์ เขาเล่าให้ฟังว่า มีคนไทยเรียนในประเทศนี้น้อยมากๆๆๆๆ แต่คนไทยที่เรียนในระดับเดียวกับเขา ก็ได้ทุนจากทางมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกับเขา ซึ่งคนไทยไม่จำเป็นต้องมีทุนจากเมืองไทยก็สามารถเรียนในสวิสต์เซอร์แลนด์ได้ โดยส่วนใหญ่แล้วทุนปริญญาเอกในยุโรปซึ่งเรียกว่า PhD position หรือ PhD fellowship/studentship คนต่างชาติที่ไม่ใช่คนของสหภาพยุโรป ก็สมัครขอทุนได้ และมีทุนจำนวนมาก (ยกเว้นสาขาทางด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์)
3 หลักสูตรนานาชาติ
ปัจจุบันหลายประเทศในยุโรป ปรับหลักสูตรปริญญาเอกใหม่ให้สอดคล้องกับหลักสูตรปริญญาเอกของประเทศอื่นๆ และปัจจุบันก็มีหลักสูตรปริญญาเอกจำนวนมากที่เปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งใน เยอรมัน สวิสต์เซอร์แลนด์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ อีกทั้งหลักสูตรของยุโรปในปัจจุบันก็เพิ่มการเรียน coursework เสริมด้วย และปรับระยะเวลาในการเรียนไม่ให้ยาวนานเกินไปเหมือนกับระบบในอดีต เช่นในเยอรมัน ปริญญาเอกของ International Max Planck Research School ใช้ระยะเวลาเรียนเพียง 3 ปีเท่านั้น (รวมการเรียน coursework) บางประเทศเช่น สวีเดนหรือเนเธอร์แลนด์ ใช้เวลาเรียน 4 ปี
มหาวิทยาลัยโดยทั่วไป เปิดสอนภาษาของประเทศของเขาให้กับ นศ ต่างชาติได้เรียนเพื่อให้ นศ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ลำบาก อย่างไรก็ตามประเทศในยุโรปบางประเทศเช่น เนเธอร์แลนด์และสวีเดน ถึงคุณจะไม่รู้ภาษาของประเทศเขา ปัญหานี้ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันเลย เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ของประเทศเหล่านี้สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ดี
4 ชีวิตความเป็นอยู่แบบสบายๆไสต์ยุโรป
หากคุณไม่ชอบชีวิตของสังคมที่เคร่งเครียด เร่งรีบ ซีเรียสมากมายกับการทำงาน อย่างในอเมริกาหรือญีปุ่น คุณจะหลงใหลการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในทวีปยุโรป ซึ่งคนเหล่านี้ ก็ทำงานอย่างจริงๆจังๆ เอาใจใส่การงานเป็นอย่างดี แต่มีเวลาผ่อนคลายค่อนข้างมากและไม่ซีเรียสกับเรื่องงานมากเกินไปเหมือนอย่างประเทศที่พัฒนาแล้วบางประเทศ ผู้คนมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากๆและสุดแสนจะสบาย
5 สถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลก
นอกเหนือจากอังกฤษแล้ว หลายประเทศในยุโรปก็มีสถาบันการศึกษาที่ติดอันดับ 50 อันดับแรกของโลก จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ทั้ง Newsweek ของอเมริกา Times ของ หรือ Shanghai Jaio Tong ของจีน) โดยเฉพาะสวิสต์เซอร์แลนด์ หรือประเทศอื่นๆเช่น เนเธอร์แลนด์ เยอรมัน ฝรั่งเศส สวีเดน สถาบันการศึกษาหลายแห่งก็อยู่อันดับต้นๆของโลก และเป็นที่รู้จักของนักวิชาการทั่วโลก แต่อาจจะไม่คุ้นหูสำหรับคนไทย อย่างมหาวิทยาลัยในอเมริกา อังกฤษหรือออเตรเลีย เนื่องด้วยอิทธิพลของภาษาอังกฤษ
ที่สำคัญ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในบางสาขาวิชา ยุโรปตะวันตกเป็นผู้นำระดับโลก และมี facilities หรือ resources ที่ไม่เป็นรองใครในโลก
Posted by : คนนอกเอามาฝาก , Date : 2006-12-09 , Time : 05:04:11 , From IP : ns2dhcp070.hertford.
|
