หญิง 39 ปี มา ER เพราะอาเจียนและปวดท้องมา 1 วัน แล้วเกิด acute cardiogenic shockหญิงอายุ 39 ปี มาตรวจที่ห้องฉุกเฉินเนื่องจากอาเจียนและปวดท้องมา 1วัน. ผู้ป่วยเคยมีอาการเช่นนี้มาแล้ว 4 ครั้งโดยไม่มีไข้หรือท้องเสียร่วมด้วย. -ผู้ป่วยเป็นนักกายภาพบำบัด และเป็นนักวิ่งทางไกล. เมื่อ 2 วันก่อน ผู้ป่วยแข่งขันวิ่งระยะทาง 5 กม. และเช้านี้ก็วิ่งออกกำลังกายตามปกติ. On examination there were no physical signs other than sinus tachycardia. ภายในเวลา 2 ชั่วโมงต่อมา ผู้ป่วยหมดสติและมี acute cardiogenic shock. ผู้ป่วยถูกส่งตัวไป ICU เพื่อให้ mechanical ventilation และ escalating inotropic support. -Chest radiography พบว่ามี pulmonary congestion. -Transthoracic echocardiography: ไม่พบ valvular และ congenital abnormalities พบว่าหัวใจ dilate เล็กน้อย ทำงานไม่ดี และไม่มี pericardial effusion. -Cardiac catheterisation : ไม่พบว่ามี coronary artery disease -ได้ใส่ intra-aortic balloon pump เพื่อ circulatory support. ผู้ป่วยไม่มี arrhythmias. เธอไม่ได้ตั้งครรภ์และไม่ได้ใช้ยาใดๆ. infection screens ทั้งหมดได้ผลลบ. Posted by : cpantip , E-mail : (chpantip@medicine.psu.ac.th) , Date : 2012-10-26 , Time : 11:17:02 , From IP : 172.29.3.134 |
First Step : หญิงอายุ 39 ปี มาตรวจที่ห้องฉุกเฉินเนื่องจากอาเจียนและปวดท้องมา 1วัน. ผู้ป่วยเคยมีอาการเช่นนี้มาแล้ว 4 ครั้งโดยไม่มีไข้หรือท้องเสียร่วมด้วย. ตอบ : จากตรงนี้ผู้ปวยมาหาหมอด้วยเรื่อง อาเจียนและปวดท้องมา หากจะระบุตำแหน่งของพยาธิสภาพจากตรงนี้เราจะได้ว่าต่ำแหน่งนั้นควรอยู่ในระบบทางเดินอาหารโดยที่สาเหตุที่ส่งผลต่อทางเดินอาหารนั้นอาจจะมาจากตัวทางเดินอาหารเองหรือมาจากที่อื่น โดยถ้าเป็นสาเหตุจากทางเดินอาหารเองก็อาจจะเป็นได้แค่เพียง dyspepsia หรือถ้าเป็นสามารถที่มาจากที่อื่นอีกที่ โดยที่ประวัติบอกว่า ไม่มีไข้หรือท้องเสียร่วมด้วย อาจจะตัดสาเหตุจากความผิดปรกติที่บริเวณผิวของลำไส้ออกไปได้ ส่วนการที่ไม่มีไข้อาจจะทำให้เรานึงถึงสาเหตุจากการติดเชื้อลดลง ผู้ป่วยเคยมีอาการเช่นนี้มาแล้ว 4 ตรงนี้คิดได้สองอย่างคือเค้าเป็นโรคเดิมแล้วหาย หรือ เป็นโรคเรื้อรังมาตลอดแต่เป็นแบบ off and on.โดยสรุปจากตรงนี้คือ ตำแหน่ง "ผู้ป่วยมีอาการแสดงของระบบทางเดินอาหารระบบเดียว โดยถ้าบอกให้ลึกลงไปก็ควรเป็นระบบทางเดินอาหารไม่รวมผิวภายในของมันเพราะไม่มีอาการของการดูดซึมที่ผิดปรกติ หรือถ้าจะมีรอยโรคที่ผิวก็จะเป็นเพียงแค่ทางเดินอาหารส่วนต้นเท่านั้น" สาเหตุ 1.ถ้าเป็นการติดเชื้อจะนึกถึงการติดเชื้อเฉียบพลับแบบเป็นแล้วหายมากกว่าการติดเรื้อรังเพราะประวัติมัน off and on โดยการติดเชื้อลักษณะอย่างนี้ที่ทำได้คือไวรัส 2.Neoplasm คิดถึงน้อยเพราะไม่มีตำแหน่งรอยโรคที่ชัดและประวัติก็เป็น off and on ถ้าจะเป็นคงเป็น Paraneoplastics มากกว่า 3.Autoimmune อาจจะต้องคิดถึง แต่น้อยเพราะประวัติมัน off and on. Posted by : kenny , E-mail : (streptokinase@hotmail.com) , Date : 2012-10-26 , Time : 13:31:31 , From IP : 172.29.21.130 |
Second Step : เมื่อ 2 วันก่อน ผู้ป่วยแข่งขันวิ่งระยะทาง 5 กม. และเช้านี้ก็วิ่งออกกำลังกายตามปกติ. On examination there were no physical signs other than sinus tachycardia. ตอบ : การที่เข้าวิ่งได้ขนาดนี้แสดงว่า Myocardial performance นั้นจะต้องยังดีอยู่ ทำให้สาเหตุของหัวใจวายกระทันหันของเขานั้นจะต้องเป็น Aucte process ที่ involve myocardium.จากการตรวจร่างกายได้ Sinus tachycardia นั้นจะต้องหาสาเหตุว่ามาจากอะไรโดยทั่วไปผมมีแนวทางแบบผมดังรูป แต่มันอาจะไม่สมบูรณ์ อาจารย์ พี่ หรือ น้อง คนไหนวิจารณ์ได้ครับ โดยถ้าดูตามภาพแล้วผู้ป่วยน่าตกอยู่ใน medical cause และจากอาการทางระบบอาหารที่เกิดร่วมทำให้ผมไม่คิดว่าสาเหตุหลักจะมาจาก heart จึงตกอยู่ใน non-cardiogenic cause และ Hemodynamic เค้าก็ดีทำให้คิดว่า Sinus tachycardia ที่ควรหาคือ Metabolic และผู้ป่วยไม่มี setting ที่เกี่ยวกับ Acid base electrolye ที่ผิดปรกติ จึงทำให้คิดถึง Direct stimuli from emdocrinal diseases. Posted by : kenny , E-mail : (streptokinase@hotmail.com) , Date : 2012-10-26 , Time : 13:58:02 , From IP : 172.29.21.130 |
Picture 1 Posted by : kenny , E-mail : (Streptokinase@hotmail.com) , Date : 2012-10-26 , Time : 14:00:45 , From IP : 172.29.23.83 |
Third step : ภายในเวลา 2 ชั่วโมงต่อมา ผู้ป่วยหมดสติและมี acute cardiogenic shock. ผู้ป่วยถูกส่งตัวไป ICU เพื่อให้ mechanical ventilation และ escalating inotropic support.Chest radiography พบว่ามี pulmonary congestion. ตอบ จากตรงนี้เห็นได้ว่าผู้ป่วยมี Congestive heart failure at killip level 4 = acute cardiogenic shock with pulmoany edema = forward + backward failre. จาก CO = SV x HR >>>>> SV = LVEDV-LVESV >>>>> LVEDV ขึ้นกับ diastolic function ซึ่งประกอบด้วย 2 อย่างใหญ่ๆคือ 1.Diastolic Hemodynamic function ซึ่งดูได้จาก Transmitral annular flow ประกอบโดย 2 ได้แก่ Early diastolic flow (E) and Atrial contraction flow (A) โดย E จะเป็นตัวบอกความสามารถในการคลายตัวของ LV และ A เป็นตัวบอกความสามารถในการยึดหยุ่น โดย normal cardiac cycle แล้ว Early diastolic flow จะมากกว่าทั้งเวลา ปริมาตร และความเร็ว ส่วน Atrial contraction flowนั้น Posted by : kenny , E-mail : (streptokinase@hotmail.com) , Date : 2012-10-26 , Time : 14:41:35 , From IP : 172.29.21.130 |
มันไม่ยอม upload ที่พิมพ์ครับ Posted by : kenny , Date : 2012-10-26 , Time : 14:51:33 , From IP : 172.29.21.130 |
Diastolic dysunction Posted by : kenny , E-mail : (streptokinase@hotmail.com) , Date : 2012-10-26 , Time : 14:55:16 , From IP : 172.29.21.130 |
Systolic function Posted by : kenny , E-mail : (streptokinase@hotmail.com) , Date : 2012-10-26 , Time : 14:56:17 , From IP : 172.29.21.130 |
Foci dysfunction by Specklig tracking Posted by : kenny , E-mail : (streptokinase@hotmail.com) , Date : 2012-10-26 , Time : 15:02:34 , From IP : 172.29.21.130 |
ไปเข้าเวรก่อนครับเดี๋ยวคืนนี้ตอบต่อ Posted by : kenny , E-mail : (streptokinase@hotmail.com) , Date : 2012-10-26 , Time : 15:30:50 , From IP : 172.29.21.130 |
Fourth step โดยทั่วไปแล้ว impaire LV systolic function นั้นเกิดจากสาเกตหลังคือ Coronary artery disease ซึ่งอาจจะเป็นจาก atherosclerosis หรือ Coronary malformation แล้ว impaire blood supply ก่อให้เกิด myocardial ischemia or injury ข้อสำคัญคือรอยโรคจะเป็นไปตาม vascular territory โดยแสดงออกมาในรูป segmental abnormal wall motion, reduced systolic myocardial expansion,focal +/- global diastolic dysfunction โดยถ้ายังไม่ scar อาจจะเป็น imapire relxation แต่ถ้ามี scar ก็จะเป็น pseudonormalization to restriction.ในกรณีที่ไม่ได้เกิดจาก coronary สาเหตุหลักๆคือ 1.Infection 2.infiltration 3.Autoimmune 4.Arrhythmic induce 6.Endocrine(Thyroid,hypercathecholamine,DM)7.Drug โดยการทำ echo ที่ดีดูว่าไม่มี regional wall จะเป็นตัวบอกได้ระดับนึงว่าไม่น่าจะมาจาก coronary cause แต่ resting echo อาจจะไม่พบอาจจะต้องทำ contrast echo, stress echo หรือ speckling tracking เพื่อดู regional abnormal contraction. แต่การตรวโดย CAG จะให้ผลดีสุด แต่ในผู้ป่วยรายนี้ต้นตอสาเหตุไม่น่ามาจากหัวใจ โดยสาเหตุที่คิดถึงมากที่สุดคือ endocrine เพราะทำโรคแบบ of and on ได้และมีอาการทางระบบอื่นร่วม ส่วนสเหตุจากการติดเชื้อคิดถึงน้อยเพราะไม่มีไข้ infiltration and Autoimmune ควรแสดงอาการบงอย่างในรับอื่นบ้างและกาดำเนินโรคควรเป็นแบบ progressive. Posted by : kenny , E-mail : (streptokinase@hotmail.com) , Date : 2012-10-27 , Time : 01:42:56 , From IP : 172.29.21.130 |
Fifth Step Endocrinal disease นั้นเมื่อดู diastolic function แล้วควรต้องมีการ impair ร่วมแต่ ไม่ควรเป็นแบบ PSeudonormal or restriction เพราะมันเป็นตัวที่บอกว่มี fibrosis โดยตัวโรคและระยะเวลาไม่น่าทำให้เกิด fibrosis ดีงนั้นแล้วถ้าเป็นผมจะขอทำ 1.ส่ง thyroid function test หา hyperthyroidism 2.Urine VMA และ CT abdomen and Chest หา Neuroendrocrine tumor และ 12 lead EKG เพื่อ biphasic QRS แบบ Cathecholaminergic VT เพื่อหา Adrenal medulla tumor or Cathcholamine secreting tumor 3.ส่ง Blood sugar 4.Record echo ก่อนแล้วมาทำ Speckling tracking ทีหลัง และจะวัด RV function โดยอาจจะใช้ TAPSE เอาที่ ต่ำกว่า 2cm หรือ TDI at tricuspid annulus ต่ำกว่า 11.2 cm/s เพราะถ้าเป็น metabolic or endocrine cause ควร involve หัวใจทั้งดวง ปล. จากประวัติที่มี off and on และเป็น epinephrine resist จะขอเดาว่า Myocardial dysfunction from Endocrinal disease นั้นคือ Pheochromocytoma ครับ Posted by : kenny , E-mail : (streptokinase@hotmail.com) , Date : 2012-10-27 , Time : 02:00:02 , From IP : 172.29.21.130 |