ครูชาย 36 ปี ไข้ ปวดเมื่อยทั้งตัว 2 วันครูชาย อายุ 36 ปี ไข้ 2 วันก่อนมารพ. 2 วันก่อนมารพ. มีไข้หนาวสั่น ปวดเมื่อยทั่วร่างกาย ปวดเอวทั้ง 2 ข้าง คลื่นไส้แต่ไม่อาเจียน เบื่ออาหาร ไม่ไอ ปัสสาวะและอุจจาระปกติ ทราบว่าเป็น HBV carrier 10 วันก่อนมีไข้ ผู้ป่วยไปล่องแก่ง เที่ยวป่าที่สตูล ผู้ที่ไปเที่ยวด้วยกันไม่มีใครเป็นไข้ ผู้ป่วยมาที่ ER นอกจากมีไข้ ตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ CBC Hct 37%, WBC 9000, N 74%, band 8%, L 15%, M 2%, Platelet 114000, malaria negative UA: SpGr 1.015, prot 2+, blood 2+, RBC 0, WBC 0 ถ้านเป็นเพทย์เวรที่ ER 1. จงบอกการวินิจฉัย 2. จะส่ง investigation อะไร 3. จะให้การรักษาอย่างไรบ้าง Posted by : chpantip , E-mail : (chpantip@medicine.psu.ac.th) , Date : 2008-11-10 , Time : 13:00:14 , From IP : 172.29.3.68 |
เดี๋ยวพรุ่งนี้แวะมาตอบนะครับ ขอจับจองพื้นที่ก่อน :D Posted by : harder , Date : 2008-11-11 , Time : 22:38:00 , From IP : 172.29.22.43 |
ขอบคุณคุณหมอ TUCK และคุณหมอ arder มากค่ะ เห็นด้วยกับการวินิจฉัยและ management ของคุณหมอค่ะ แพทย์ไม่ได้ admit ผู้ป่วยค่ะ ผู้ป่วยได้ยากลับไปกินที่บ้านดังนี้ Doxycycline (100) 1x2 x 3 days Paracet (500) 2 tab q 4 hrs Ibuprofen (400) 1x3pc Omeprazole (20) 1x1Ac เห็นด้วยกับยาทั้งหมดนี้ไหมคะ Posted by : chpantip , E-mail : (chpantip@medicine.psu.ac.th) , Date : 2008-11-12 , Time : 11:15:04 , From IP : 172.29.3.68 |
ขอบคุณคุณหมอ Tuck และ harder มากค่ะ คำถามของคุณหมอ Tuck ขอไปตั้งเป็นกระทู้อีก 2 กระทู้นะคะ และจะตอบในกระทู้ใหม่ค่ะ ไปได้ paperที่น่าสนใจเกี่ยวกับ lab finding ใน DF มาแล้วค่ะ กลับมาเรื่องของผู้ป่วยรายนี้นะคะ เรื่องยาที่ได้ถามไปว่าเหมาะสมหรือไม่ 1. Doxycycline (100) 1x2 x 3 days ถ้าผู้ป่วยกินอาหารได้น้อยหรือมีคลื่นไส้อาเจียนอยู่แล้วก็จะทำให้ผู้ป่วยยิ่งมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนมากขึ้น ถ้ากินได้น้อย ต้องให้เขาพยายามกินอาหารให้มากแล้วกินยาหลังอาหารทันที ห้ามกินยาพร้อมนม ถ้าอาเจียน และต้องการรักษา rickettsiosis ก็ต้องให้เป็นยาฉีด IV คือ chloramphenicol 500 mg IV ทุก 6 ชม. chloramphenicol ไม่มีฤทธิ์ต่อ leptospirosis นะคะ ถ้าจะให้เป็นยากินสำหรับ leptospirosis ใช้ amoxicillin ได้ค่ะ 2. Paracet (500) 2 tab q 4 hrs ยาขนาดนี้มากเกินไปสำหรับการลดไข้และมีโอกาสเกิด liver toxicity ได้มาก มีการศึกษาที่ยืนยันว่า paracetamol 500 mg เทียบกับ 1000 mg ลดไข้ได้ดีเท่ากัน 3. Ibuprofen และ NSAID ตัวอื่นๆ ไม่อยากให้ใช้เลยค่ะ เพราะมี GI side effect ยิ่งทำให้ผู้ป่วยคลื่นไส้อาเจียนมากขึ้น ถ้าผู้ป่วยมี platelet ต่ำ ก็มีโอกาสเกิดbleeding ได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้น ผู้ป่วยยังคงมีไข้สูงหนาวสั่น ถ่ายเหลวๆ วันละ 3-4 ครั้ง มีคลื่นไส้อาเจียน กินได้น้อยมาก วันที่ 3 ของไข้ มีผื่นเป็นปื้นแดงๆ ขึ้นที่หน้าท้อง ไม่คัน วันที่ 4 ของไข้ ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาในรพ. PE: T 39 C, BP 100/50, P 110, R 28 Somnolence, dehydrated, not pale, no jaundice Heart+lungs NAD Erythematous plaque at right side of anterior abdominal wall, petechiae at legs, Liver 2 cm below RCM, spleen not palpable Posted by : chpantip , E-mail : (chpantip@medicine.psu.ac.th) , Date : 2008-11-15 , Time : 13:45:47 , From IP : 172.29.3.68 |
CBC: Hct 42 , WBC 4000, N 81, L 14, Platelet 63000, malaria negative BUN 30, Cr 1.10, SGOT 65, SGPT 46, ALP 94 CXR นี้เป็นวันที่ 2 ของการเข้ารับการรักษาในรพ. (วันที่ 5 ของไข้) คำถามคือ 1. การวินิจฉัยโรคที่น่าจะเป็นมากที่สุดคืออะไร ตัดโรคอะไรไปได้บ้าง 2. จะ manage ผู้ป่วยอย่างไรต่อไป Posted by : chpantip , E-mail : (chpantip@medicine.psu.ac.th) , Date : 2008-11-15 , Time : 14:08:10 , From IP : 172.29.3.68 |
พอผู้ป่วยมี acute respiratory failure มี diffuse bilateral lung infiltration ตอนแรกรับ ให้ ceftriaxone+chloramphenicol พอมี lung lesion ซึ่ง progress เร็วอย่างนี้ ก็ขอผู้ป่วยเช็ค HIV antibody ด้วยค่ะ ผลออกมา negative ย้ายผู้ป่วยไป ICU on respirator และให้ยาปฏิชีวนะที่ครอบคลุมเชื้อกว้างขึ้น คือ ceftazidime (คลุม melioidosis ซึ่งจริงๆแล้วไม่น่าจะเป้น เพราะ course สั้น progress เร็วมาก และผู้ป่วยไม่มี risk factorใดๆ) + clindamycin ไม่ได้ cover rickettsiosis ต่อเพราะได้ doxycycline+ chloramphenicol มาก่อน น่าจะพอแล้วผู้ป่วยอาการ stable ยังมีไข้สูงตลอด ผล hemoculture และ culture อื่นๆ ไม่ขึ้นเชื้ออะไร อยูใน ICU วันที่ 7 มี VAP จาก Acinetobacter baumannii ซึ่งตอบสนองดีต่อ sulperazon ไข้ลงดีในวันที่ 14 ของโรค ผล lepto titer (IFA) วันที่ 5 ของไข้ <1:100 14 วันต่อมา 1:3200 scrub และ murine typhus IFA negative ผู้ป่วยอาการค่อยๆดีขึ้น 1 เดือนหลังเริ่มป่วย กลับไปทำงานได้ CXR หายเป็นปกติ Posted by : chpantip , E-mail : (chpantip@medicine.psu.ac.th) , Date : 2008-11-22 , Time : 09:43:45 , From IP : 172.29.3.68 |