ขอบคุณครับ เป็นคำถามที่น่าสนใจมากๆ
จากคำถามที่ว่า
"เมื่อต้องเปลี่ยนจาก efavirenz ไปเป็น nevirapine การเริ่มให้ nevirapine ต้องใช้ยาขนาดต่ำก่อนหรือไม่"
Efavirenz เป็นยา NNRTIs ที่ Metabolism กำจัดผ่าน เอนไซม์ CYP2B6 เป็นส่วนใหญ่และ CYP 3A4 บางส่วนที่ตับก็จริง แต่ตัวมันเองไป Induce การสร้างเอนไซม์ชนิด CYP3A4 ด้วย ทำให้เวลาที่หยุด Efavirenz แล้วให้ Nevirapine จะมีเอนไซม์ชนิด CYP3A4 ที่ถูกกระตุ้นจาก Efavirenz มาทำลายยา Nevirapine มากขึ้น และปัญหาที่ว่าในช่วงแรกต้องใช้ Lead-in dose nevirapine 200 mg/day ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ก็ยิ่งทำให้ระดับยา nevirapine ลดลงไปอีก ดังการศึกษาของ Winston et al. 2004 ที่เปรียบเทียบผู้ป่วยที่เพิ่งหยุดยา Efavirenz แล้วต่อด้วย Nevirapine ว่า ต้อง LEAD-in หรือไม่ ผลการศึกษาเป็นดังนี้
ระดับ Nevirapine ในพลาสมา (นาโนกรัม/มิลลิลิตร) หลังหยุดยา Efavirenz
ระยะเวลาที่ได้
Nevirapine (day) Nevirapine 200 mg OD. Nevirapine 200 mg BID.
2 1187 2544
8 2554 4358
15 2881 3426
22 4121 4490
29 6724 5306
โดยมี Therapeutic windows of Nevirapine: 3000-8000 นาโนกรัม/มิลลิลิตร
ซึ่งจะเห็นได้ว่าหากเรา Lead-in กว่าที่ระดับยาจะถึง Therapeutic windows ใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ และเป็นที่ทราบกันดีว่า NNTRIs มี Resistant barrier ที่ต่ำ จากผลการศึกษานี้จึงควรให้ Nevirapine 200 BID ตั้งแต่แรก
อย่างไรก็ดีการศึกษานี้มีจำนวนผู้ป่วยที่น้อย และยังไม่มีการศึกษาในคนไทยที่น้ำหนักตัวน้อย จึงต้องรอผลการศึกษาต่อไป
ขอบคุณสำหรับคำถามครับ
PS. เอกสารอ้างอิง: AIDS 2004, Vol(18), No 3, P 572-574
Posted by : wichy , Date : 2008-08-29 , Time : 15:00:54 , From IP : 172.29.19.184
|