ความคิดเห็นทั้งหมด : 3

ชาย 70 ปี ไข้และปวดท้องส่วนบนมา 1 สัปดาห์


   ชายอายุ 70 ปี มีไข้และปวดท้องส่วนบนมา 1 สัปดาห์ ไม่มีคลื่นไส้หรืออาเจียน ก่อนหน้านี้แข็งแรงดี
PE: T 39.5°C BP 90/60, pulse 90,
ผู้ป่วยมีหนาวสั่น, tenderness ที่ epigastrium และ right upper quadrant

Lab
Hb 11.2 g%, WBC 11000/cumm (neutrophils 89%), ESR 124 mm/h and C-reactive protein 277 mg/L, LFT ปกติ

contrast-enhanced CT of the abdomen อยู่ในเกณฑ์ปกติ

การวินิจฉัยโรคที่น่าจะเป็นคือข้อใด (เลือกคำตอบที่ถูกต้องได้มากกว่า 1 ข้อ)
A. Cholangitis
B. Cholecystitis
C. Pylephlebitis
D. Leptospirosis
E. Liver abscess


Posted by : chpantip , E-mail : (chpantip@medicine.psu.ac.th) ,
Date : 2008-08-26 , Time : 07:56:38 , From IP : 172.29.3.68


ความคิดเห็นที่ : 1


   D. Leptospirosis ครับ

Posted by : sagittareusinternist , Date : 2008-09-01 , Time : 10:57:59 , From IP : 172.29.1.118

ความคิดเห็นที่ : 2




   ขอบคุณคุณหมอ sagittareusinternist มากค่ะ

ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วย imipenem และ vancomycin.

ในรูปคือ MRI of the abdomen ลองอ่านดูนะคะ


Posted by : chpantip , E-mail : (chpantip@medicine.psu.ac.th) ,
Date : 2008-09-02 , Time : 10:15:18 , From IP : 172.29.3.68


ความคิดเห็นที่ : 3


   ขอเฉลยผล MRI abdomen นะคะ
รูป A: Arrows show thrombosis of the left branch of the portal vein, no biliary dilatation was seen.
รูป B: confluence of adipose tissue around the sigmoid colon, suggestive of diverticulitis

ผู้ป่วยไม่ได้มีท้องผูก ปวดที่ท้องส่วนล่าง หรือถ่ายเป็นเลือด

-ผล blood culture 2 ขวดขึ้น Clostridium tertium
-Doppler ultrasonography ยืนยันว่ามีการอุดตันของ left portal vein branch
-ไม่พบ varices จาก EGD-scopy
-Colonoscopy พบว่ามี multiple diverticulae และมี mucosal edema ของ sigmoid colon

ผู้ป่วยหายไข้และหายปวดท้องหลังได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและ anticoagulation เขาได้รับ imipenem และ vancomycin นาน 1 เดือน และได้รับ oral anticoagulation นาน 3 เดือน
doppler ultrasonography หลังให้ anticoagulation therapy ครบ 1 เดือน พบว่า clot หายไปหมด ติดตามที่ 6 เดือน ผู้ป่วยสบายดี

Pylephlebitis หรือ septic thrombophlebitis ของ portal vein เป็นภาวะที่ให้การวินิจฉัยได้ยากทางคลินิกและผู้ป่วยเสียชีวิตทั้งหมดในยุคก่อนมียาปฏิชีวนะ pylephlebitis มักเกิดจากการติดเชื้อในส่วนที่ drain ไปสู่ portal system พบบ่อยที่สุดว่าสัมพันธ์กับ appendicitis และ diverticulitis
มีรายงาน pylephlebitis ใน necrotizing pancreatitis, inflammatory bowel disease, hemorrhoidal disease, foreign body perforation, acute cholecystitis, Behcet disease และ amebic colitis

อาการโรคที่มักพบคือไข้ และ right upper quadrant pain โดยไม่มี jaundice
Doppler ultrasonography, MRI และ contrast CT มีความไวสูงสำหรับการวินิจฉัย
อาจเกิด multiple liver abscesses เป็นภาวะแทรกซ้อนได้

ปฏิกิริยาระหว่างเชื้อก่อโรคและ endothelium อาจกระตุ้น clotting cascade ทำให้เกิด portal vein thrombosis การติดเชื้อ anaerobe มักสัมพันธ์กับ thrombotic diseases เพราะมี bacterial component ที่อาจ enhance fibrin clotting และ heparin degradation

บทบาทของ anticoagulation ใน pylephlebitis ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีประโยชน์ ยังไม่มี randomised study การศึกษาย้อนหลังของผู้ป่วย 44 ราย พบว่าผู้ที่ได้รับ anticoagulation therapy มี outcome ดีกว่าคนที่ไม่ได้รับ อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยที่ clotting function ปกติและมีเฉพาะ thrombosis ของ portal vein อาจไม่จำเป็นต้องให้ anticoagulation

ให้นึกถึง pylephlebitis ให้มากในผู้ป่วยที่มี sepsis และปวดท้องที่ right upper quadrant โดยไม่มี jaundice แม้ในกรณีที่ไม่มี clinical signs จาก primary site of infection imaging technique สมัยใหม่ช่วยการวินิจฉัยในเบื้องต้นอย่างมากในการดู portal vein การให้ยาปฏิชีวนะทันทีเป็นประโยชน์มากในการลดอัตราตาย

Tsochatzis E. Lancet 2006;358:422


Posted by : chpantip , Date : 2008-09-05 , Time : 15:35:11 , From IP : 172.29.3.68

สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น