สาเหตุ
อาการและอาการแสดง
การป้องกัน
การดูแล
ถ้าพบอาการต่อไปนี้ควรนำส่งโรงพยาบาลทันที
เกิดจากเชื้อไวรัส 2 ชนิดคือเด็งกี่ ชิกุนคุนยา โดยมียุงลายเป็นพาหะนำเชื้อไข้เลือดออก และออกหากินในเวลากลางวัน ยุงชนิดนี้ชอบเพาะพันธุ์ตามแหล่งน้ำนิ่งๆ ที่อยู่ใต้ตุ่มน้ำ กระป๋อง กะลา และหลุมที่มีน้ำขัง หรือจานรองขาตู้กับข้าว ฯลฯ
เราพบว่าไข้เลือดออกที่มีอาการรุนแรงหรือช็อคจะเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่
ระยะที่ 1 ระยะไข้สูง
ไข้สูงตลอดเวลา (39-40 องศาเซลเซียส)
หน้าแดง ตาแดง ไอ เจ็บคอ
ปวดศีรษะ กระหายน้ำ
ซึม เบื่ออาหาร และอาจปวดท้องบริเวณไต้ลิ้นปี่หรือชายโครงขวา
มีผื่นแดงขึ้น (ไม่คัน) ในวันที่ 3 ของไข้ ตามแขนขา ลำตัว รักแร้ เพดานปาก กระพุ้ง แก้มและลิ้นไก่ ผื่นนี้อาจมีจุดเลือดออกเป็นจุดแดงเล็กๆ
ระยะที่ 1 ใช้เวลา 4-7 วัน ถ้าอาการไม่รุนแรงไข้ก็จะค่อยๆ ลดลงและเด็กจะแจ่มใสขึ้น
ระยะที่ 2 ระยะช็อคและมีเลือดออก
จะเกิดขึ้นในช่วงไข้ลด ประมาณวันที่ 3-7 ของโรค
พบอาการปวดท้องมากขึ้น กดเจ็บเล็กน้อยตรงใต้ชายโครงขวา
ตัวเย็น ซึม เหงื่อออกตามตัว
ปัสสาวะน้อย
ผู้ป่วยกระวนกระวาย และอาจมีจุดแดงๆ เหมือนมีเลือดออกตามผิวหนัง มีเลือดกำเดา ไหล อาเจียนเป็นเลือดหรือเป็นสีกาแฟ ถ่ายอุจจาระดำ
ระยะนี้ใช้เวลา 24-72 ชั่วโมง ถ้าแพทย์สามารถแก้ไขได้ทัน ผู้ป่วยจะดีขึ้นและเข้าสู่ระยะที่ 3
ระยะที่ 3 ระยะฟื้นตัว
เด็กจะเริ่มอยากอาหาร ร่างกายจะฟื้นตัวได้เร็วจนเข้าสู่ภาวะปกติ
ตลอดระยะเวลาของโรค มักไม่เกิน 9 วัน ถ้าอาการไม่รุนแรงจะใช้เวลาเพียง 3-4 วัน ผู้ป่วย
จะดีขึ้นได้เอง
1. ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น
ปิดฝาตุ่มน้ำ
ใส่ยาฆ่าแมลงในน้ำหล่อขาตู้กับข้าว
ทำลายกระป๋อง กะลา หรือยางรถที่มีน้ำขังอยู่
2. เด็กที่นอนกลางวันควรนอนกางมุ้ง
ผู้ป่วยไข้เลือดออกจะมีอาการรุนแรงที่สุดในวันที่ไข้เริ่มลดลง
ต่างจากโรคติดเชื้ออื่นๆ ที่ผู้ป่วยมักมีอาการดีขึ้นในวันที่ไข้ลดลง
เรียบเรียงโดย ผศ. พญ. พรพิมล พฤกษ์ประเสริฐ
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
สิงหาคม 2542
กลับไปหน้าความรู้สำหรับประชาชน