ประโยชน์ของการบริจาคโลหิต |
||||
|
||||
1. ได้รับความภูมิใจที่ได้เสียสละโลหิตในร่างกายเพื่อเป็นสารธาณะประโยชน์ต่อผู้อื่นเป็นการทำบุญอันยิ่งใหญ่ | ||||
ซึ่งจะทำให้ท่านมีความสุขใจ | ||||
2. ได้รับการตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุก 3 เดือน | ||||
3. ได้รับทราบหมู่โลหิตของตนเองทั้งระบบ เอ บี โอ และระบบอาร์เอช | ||||
4. โลหิตทุกยูนิตที่ได้รับบริจาคต้องผ่านกระบวนการคัดกรองเชื้อต่างๆ ในห้องปฏิบัติการเช่น ไวรัสตับอักเสบบี ซีและอื่นๆ | ||||
|
||||
บริการตรวจสารเคมีในโลหิต |
||||
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยมีบริการตรวจพิเศษฟรีสำหรับผู้มีจิตศรัทธา ที่บริจาคโลหิตให้แก่ | ||||
่ศุนย์บริการโลหิตแห่งชาติ อย่างสม่ำเสมอ ด้วยการให้บริการตรวจสารเคมีในโลหิตเช่นตรวจ หาน้ำตาล และ ไขมัน ในโลหิต ตรวจสภาวะการทำงานของตับ และไตเป็นต้น | ||||
|
||||
สิทธิพิเศษในการรักษาพยาบาล |
||||
ผู้บริจาคโลหิต 18 ครั้ง ขึ้นไปอาศัยอำนาจกระทรวงสาธารณสุข ตามความในข้อ 21 แห่งระเบียบกระทรวง | ||||
สมาชิกผู้บริจาคโลหิตของสภากาชาดไทย ซึ่งมีหนังสือรับรองว่าได้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 18 ครั้งขึ้นไปให้ผู้มีสิทธินี้ | ||||
ี้ได้รับการยกเว้น การร่วมจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ เป็นจำนวนเงินสามสิบบาทในแต่ละครั้งที่เข้ารับการบริการ | ||||
|
||||
ศรัทธาแห่งความภาคภูมิ |
||||
เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณและยกย่องสรรเสริญผู้บริจาคโลหิตศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติได้จัดทำเข็ม | ||||
ิผู้บริจาคโลหิตขึ้น เพื่อมอบให้ผู้บริจาคโลหิตด้วย โดยจัดทำเป็นเข็มครั้งที่ 1,7, 16, 24, 36, 48, 60, 72, 84, 96 | ||||
และ 108 ตามลำดับ สำหรับผู้บริจาคโลหิตครบ 50, 75และ 100 ครั้ง จะได้รับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ | ||||
ชั้นที่ 3, 2 และ 1 ตามลำดับ ส่วนพระภิกษุ สามเณร จะได้รับพระราชทานพัดกาชาดสมนาคุณ | ||||